จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานเกิน


  ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานเกิน
(Overactive Bladder )

ความหมาย เป็นกลุ่มอาการต่างๆที่เกิดขึ้นและเกี่ยวเนื่องกับกระเพาะปัสสาวะ ได้แก่

-การปวดปัสสาวะเฉียบพลัน

-ปัสสาวะถี่บ่อย

-เกิดการเร่งเร้ากระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะราดเล็ด ยับยั้งไม่อยู่

-ต้องการปัสสาวะถี่ อย่างน้อย ๒-๓ ครั้งในตอนกลางคืน

อะไรคือสาเหตุ   มีจากหลายสาเหตุ ที่เป็นไปได้ ดังนี้

๑.กล้ามเนื้อบริเณเชิงกรานอ่อนแรง กล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้เหยืยดตัวขยายออกเมื่อคราวคลอดบุตร ซึ่งทำให้ถุงกระเพาะปัสสาวะเคลื่อนตำแหน่งไปและหูรูดกระเพาะปัสสาวะก็ขยายเปิดออกทำให้ปัสสาวะเล็ดรอดได้

๒.เส้นประสาทถูกทำลายทำให้การส่งสัญญาณไปยังสมองเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะถ่ายออกมาผิดเวลา โรคที่ทำลายเส้น ระบบประสาท ได้แก่ เบาหวาน,ผ่าตัดกระดูกเชิงกราน กระดูกหลัง,จานหมอนรองกระดูกเลื่อน

๓.สารออกฤทธิ์ทางยา เช่น แอลกอฮอล,คาแฟอีน,ทำให้เส้นประสาททึบมีผลต่อการถ่ายสัญญาณไปสมองผิดผลาด มีผลให้ถ่ายปัสสาวะมากเกิน ยาขับปัสสาวะ และคาแฟอีนทำให้กระเพาะปัสสาวะบรรจุน้ำปัสสาวะเร็ว อาจเกิดรั่วออกได้

๔.การติดเชื้อ  ตามทางเดินท่อปัสสาวะอาจติดเชื้อโรค สามารถระคายเคืองต่อประสาทบริเวณกระเพาะปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะหดโดยไม่มีการเตือน

๕.น้ำหนัก(ตัว)เกิน การที่บุคคลอ้วน น้ำหนักเกินสร้างแรงกดต่อกระเพาะปัสสาวะกระตุ้นการถ่ายปัสสาวะ

๕.ขาดฮอร์โมน เอสโทรเจนหลังวัยหมดประจำเดือนเกิดกับผู้หญิงที่ทำให้ปวดปัสสาวะอย่างฉับพลัน ให้ปรึกษาแพทย์ การให้ฮอร์โมนเอสโทรเจนบริเวณอวัยะสืบพันธุ์จะดีสำหรับท่าน มันต่างจากให้ทางรับประทานหรือ ฉีด

การจะบำบัดภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานเกินอย่างไร

กระเพาะปัสสาวะทำงานเกินเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นโดยปกติ มันสามารถบำบัดรักษาแต่ต้องรับความร่วมมือทั้งแพทย์และคนไข้ เริ่มด้วยการปรับเปลื่ยนพฤกติกรรมผู้ป่วยและเทคนิคการให้ยาเพื่อปรับระบบประสาท

การปรับเปลื่ยนพฤกติกรรมผู้ป่วย

ผู้ป่วยจะต้องมั่นจดบันทึกพฤกติกรรมการดื่มน้ำ,การถ่ายปัสสาวะในระหว่างวัน จดปริมาณน้ำที่ดืม จำนวนครั้งที่ถ่ายปัสสาวะ จดจำนวนครั้งที่ท่านเกิดปัสสาวะเล็ดภายหลังที่ ไอ จาม หัวเราะ

ควมคุมการรับประทานอาหาร น้ำ รักษาสุขภาพกระเพาะลำไส้และฝึกควบคุมกระเพาะปัสสาวะ

อาหารเครื่องดื่มบางชนิดควรจะต้องลดหรือห้ามรับประทานอาหารเหล่านี้ ได้แก่ ชา, กาแฟ, แอลกอฮอล ,ช็อตโกเล็ต,น้ำส้ม น้ำผลไม้,น้ำมะเขือเทศ เครื่องเทศ อาหารรสเปรี้ยวและเครื่องดืมเติมน้ำตาลเทียม ออกกำลังสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัว ไม่สูบบุหรี่

ดืมน้ำที่ไม่ระคายเคืองแต่พอประมาณ ผู้ป่วยที่มีอาการทางกระเพาะปัสสาวะ มักดืมน้ำแต่น้อยทั้งนี้คิดว่าจะไม่ต้องปัสสาวะบ่อย ที่จริงคิดผิด คุณควรดืมน้ำประจำวันละ ๓-๔แก้วและพยายามถ่ายปัสสาวะออกตลอดทั้งวัน การดืมน้ำน้อยไปจะทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะที่เข้มข้นเกินไป(ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มกลิ่นฉุน)ซึ่งจะระคายเคืองต่อกระเพาะปัสสาวะและไม่ควรดืมน้ำในช่วงเวลา สอง-สามชั่วโมงก่อนเข้านอน

การฝึกควบคุมกระเพาะปัสสาวะ

เมื่อเกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานเกิน กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะของคุณจะมีสภาวะที่คอยตอบสนองอย่ตลอดเวลา(เกร็งตัว) การฝึกควบคุมกล้ามเนื้อเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถเก็บปัสสาวะได้ดีขึ้น การฝึกควบคุมต้องปรึกษาและอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อเรียนรู้วิธีต่อต้านยับยั้งความรู้สึกที่เร่งเร้า, ภาวะปวดปัสสาวะเฉียบพลันสามารถเลื่อนการปัสสาวะออกไปได้ เริ่มด้วยคุณจดบันทึกช่วงเวลาเฉลี่ยที่ปวดปัสสาวะแล้วพยายามยืดช่วงเวลานั้นออกไป โดยการนั่งตำแหน่งที่สดวกสบาย กำหนดลมหายใจเข้าออกลึกและช้า พยายามทำใจให้สบาย,สงบ  หากสามารถยืดช่วงเวลาออกไปได้บ้างจนอดทนไม่ไหวก็ให้รีบไปปัสสาวะได้ เวลาปัสสาวะถ่ายออกเสียให้หมด และหมั่นฝึกบีบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานของคุณอย่างรวดเร็วหลายๆครั้ง

การใช้ยาช่วยบำบัดรักษา Drug treatments

ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์และเภสัชกรไม่แนะนำให้ซื้อยามารับประทานเอง ยาส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นพวกAnticholinergic drug  ( แอนตี้โคลิเนอร์จิก ) ได้แก่ Oxybutynin (Ditropan®), oxybutynin XL (Ditropan XL®), oxybutynin TDDS (Oxytrol®) Propantheline (Pro-Banthine®) Dicyclomine (Antispas®, Bentyl®, Di-Spaz®, Dibent®, Or-Tyl®, Spasmoject®) Tolterodine (Detrol®) Solifenacin (Vesicare®)Fesoterodine (Toviaz®) Darifenacin (Enablex®) Trospium (Sanctura XR®) Oxybutinin Gel (Gelnique®)

และพวกยาแก้ซึมเศร้า Antidepressant medication:ได้แก่  Imipramine (Norfranil®, Tipramine®, Trofranil®)

การกระตุ้นเส้นประสาท

กระตุ้นเส้นประสาทกระดูกใต้กระเบนเหน็บ: กระตุ้นเส้นประสาทกระดูกใต้กระเบนเหน็บ คือการรักษาด้วยระบบไฟฟ้าที่ช่วยกระตุ้นเส้นประสาทที่ควบคุมกระเพาะปัสสาวะ อุปกรณ์ขนาดเล็ก (neurotransmitter) จะถูกฝังอยู่ใต้ผิวหนังในบริเวณสะโพกบน อุปกรณ์ส่งแรงกระตุ้นไฟฟ้าอ่อนผ่านสายตะกั่ว ใกล้กับเส้นประสาทกระดูกใต้กระเบนเหน็บ (เส้นประสาทที่อยู่ในหลังส่วนล่าง) แรงกระตุ้นในการเปิดช่วยให้การควบคุมกระเพาะปัสสาวะให้

กระตุ้นเส้นประสาทคือการรักษาที่มีการย้อนกลับจะพิจารณาใช้เมื่อการรักษารักษาแบบประคับประคอง(อนุรักษ์นิยม)ยังไม่ได้ผล การรักษาแบบประคับประคอง(อนุรักษ์นิยม)นี้รวมถึงพฤติกรรมบำบัด (การปรับเปลี่ยนอาหาร, biofeedback,ฝึก กระเพาะปัสสาวะ,ออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน) และการใช้ยา.  การกระตุ้นเส้นประสาทกระดูกใต้กระเบนเหน็บ จะไม่แก้ปัญหาการควบคุมของกระเพาะปัสสาวะ แต่ก็สามารถลดจำนวนครั้งที่ถ่ายปัสสาวะและหรือจำนวนครั้งที่ปัสสาวะเร็ดราด

เว๊ปไซด์ที่มีประโยชน์นำไปค้นคว้าต่อ




 kidney.niddk.nih.gov


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น: