จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ทำไมเยอร์มันนียังคงสร้างสรร

ทำไมเยอร์มันนียังคงสร้างสรร
                                      แปลจาก Why Germany still makes thing by Stefan Theil
                                                                   Scientific American , October 2012


                นาย Felix Michl และนาย Philipp stahl ร่วมกันสร้างหุ่นยนต์สามแขนกล อยู่ในห้องปฎิบัติการของมหาวิทยาลัยเทคนิดแห่งมิวนิค (  TUM =Technical University of Munich ) หุ่นยนต์นี้สามารถหยิบเก็บชิ้นคาร์บอนไฟเบอร์เล็กๆได้  มันบางขนาดเล็กกว่าเศษหนึ่งส่วนมิลลิเมตร์แต่มีจำนวน 24,000 เส้นบรรจุอยู่ และมันยังสามารถประกอบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมได้ด้วย  งานที่ชาญฉลาดและยากนี้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายกล่าวกันว่า มันอยู่ที่การเขียนซอฟแวร์คำสั่งทั้งหมดให้สามารถเปลี่ยนรูปทรงสิ่งของมาเป็น กราฟฟิกสามมิติทางคอมพิวเตอร์ อย่างเช่น อานรถจักรยานสองล้อ แต่มันยังสามารถเปลื่ยนอุปกรณ์การแพทย์หรือส่วนประกอบของรถยนต์ ถูกเปลี่ยนเป็นคำสั่งให้กับการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนของหุ่นยนต์นี้ทั้งตำแหน่งที่แม่นยำโดยไฟเบอร์ที่แข็งแรงและทนทานมากสุด เมื่อโครงการนี้จบสมบรูณ์  มิชล(Michl)จะนำมันเป็นวิทยานิพนธ์ประกอบการทำดอกเตอร์และนาย สทอฮ(Stahl)ใช้เพื่อผ่านมหาวิทยาลัย  แต่ว่างานและผลงานของเขายังมีชีวิตที่สองต่อในโรงงานของเยอรมันนี  ภายใน 700,000 ตารางฟุตของโรงงานผลิตที่ปราณีต บี เอ็ม ดับบิลล์(BMW) ตั้งอยู่ 30 ไมล์ไปตามถนนใกล้เมืองแลนด์ชุท(Landshut)เป็นสถานที่บรรดาวิศวกรทั้งหลายพากันคิดผลิตรถยนต์ในยุคใหม่
            ในขณะนั้น ณ.เมืองแลนด์ชุท วิศวกรทั้งหลายมุ่งพัฒนารถยนตร์ BMW i3อยู่มันจะเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่สนองต่อตลาดผู้คนส่วนมาก เป็นรถยนตร์ไฟฟ้าทำจากอุปกรณ์น้ำหนักเบาโดยคาดว่าจะออกตัวได้ในปี คศ.2013 ฝ่ายผลิตรถยนต์นั่งโดยสารของบริษัทกำลังสร้างขึ้นรูปผสมที่ไม่มีคารบอนด์ทั้งหมด   นักวิจัย นักศึกษาอย่างมิชล(Michl)และสทอฮ(Stahl) ช่วยกันพัฒนาอยู่ในห้องปฎิบัติการในมิวนิค  หัวใจสำคัญของนวตกรรมชิ้นนี้คือ เทคโนโลยีใหม่ที่ลดเวลาการผลิตของส่วนประกอบที่ซับซ้อน เช่น โครงด้านข้างรถให้เหลือเพียง สองนาที การผนึกเทคโนโลยี่ชั้นสูงนี้เป็นไปได้กับการผลิตเพื่อมวลชนคนส่วนใหญ่แล้วเป็นครั้งแรก เครื่องปั้มอัดขนาดยักษ์สามเครื่อง แต่ละเครื่องหนัก 320 เมตตริกตันอัดเรซินเข้าไปในส่วนของคารบอนด์ไฟเบอร์สร้างความเหนียวให้มัน  บี เอ็ม ดับบิลล์(BMW)กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้นำในเทคโนโลยีเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง โตโยต้า หรือ เจนเนอรรัลมอเตอร์    “  องค์ความรู้ที่เรานำมารวมทุกองค์ประกอบ ไม่ใช่อะไรที่คู่แขงสามารถลอกเลียนแบบได้ง่ายๆ  ” นายแอนเดรีย เรนฮารด์ (Andres Reinhardt)  ผู้จัดการโครงการบริษัท บี เอ็ม ดับบิลล์(BMW) กล่าว
นั้นอาจจะ     สายการผลิตนวตกรรมใหม่ที่วิ่งจากการวิจัยของมหาวิทยาลัยและห้องปฏิบัติการของรัฐบาลมาสู่ผู้ผลิตอุตสาหกรรม เช่น บี เอ็ม ดับบิลล์(BMW)หนึ่งในแรงขับเคลื่อนลับ ที่ผลักดันเศรษฐกิจของเยอร์มันให้เจริญก้าวหน้าจากที่ถูกดูแคลนมานานช้าเหมือนเหล็กที่ค่อยๆโน้มโค้งลงต่ำ   อุตสาหกรรมผลิตของเยอรมันผจญล่องลอยวิกฤตเศรษฐกิจด้วยผลกำไรและค่าจ้างที่ขึ้นๆลงๆแกว่งไปมา  แม้นว่าค่าจ้างคนงานบริษัทได้รับสูงสุดในโลกเป็นสิบเท่าของคนงานจีนคู่แข่ง แต่สินค้าส่งออกของเยอรมันนีครองส่วนแบ่งในตลาดโลกที่แข่งขันกับจีนและประเทศอื่นๆแม้แต่ส่วนแบ่งการตลาดของสหรัฐก็ยังดิ่งลง  การว่าจ้างภาคอุตสาหกรรมได้กระเตื้องขึ้นเป็นเหตุผลหนึ่ง   ข้อมูลอ้างอิงจาก Organization for Economic Co-operation and Developmentเมื่อเดือน พฤษภาคม เยอรมันนีมีอัตราว่างงานอยู่ที่ ร้อยละ 5.6 เปรียบเทียบอเมริกาอยู่ที่ร้อยละ 8.2   ภาคอุตสาหกรรมเยอรมันจึงสามารถอยู่ในภาวะแข่งขันได้ทั่วโลกทั้งนี้เพราะมีสินค้าอย่าง รถยนตร์    BMW i3 ที่เต็มไปด้วย วิทยาศาสตร์และศิลปะ
            ปัจจัยหลักอันหนึ่งที่ทำให้เยอร์มันประสพความสำเร็จคือการบริหารจัดการนำการวิจัยพัฒนาและนักวิทยาศาสตร์ในบ้านของตนพลักดันให้สูงขึ้นให้มุ่งเน้นกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวตกรรมใหม่มีขบวนการที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่ายที่จะถูกแทรกแซงโดยค่าแรงงานต่ำ   อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นกรณีศึกษา เยอร์มันนีก็เหมือนอเมริกา นานมาแล้วได้สูญเสียการผลิตผ้าใยผ้าให้กับผู้ผลิตทีมีต้นทุนถูกกว่า เช่น จีน อินเดียและตรุกี ปัจจุบันอุตสาหกรรมเยอร์มันยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดโลกสำหรับเครื่องจักสิ่งทอที่ซับซ้อน  บรรดาการถักทอที่ใช้การลงทุนเทไปกับประเทศที่มีค่าแรงการผลิตต่ำ  ขณะที่นักอุตสาหกรรมสิ่งทอเยอรมันนีรุ่นเดิมหันไปสู่อุตสาหกรรมไฮเทดเปลี่ยนเป็นรถยนตร์และอากาศยนต์   ปัจจุบันอุตสาหกรรมสิ่งทอของเยอร์มันนีอยู่ในแถวหน้าของการผสมผสานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและศูนย์เทคโนโลยีของรัฐพัฒนาเครื่องจักรกลที่สลับซับซ้อนปราณีตถักทอเส้นใยคาร์บอนด์ให้เป็นเกลียวเชือกซึ่งไม่เหมือนกับขนแกะและฝ้ายยกเว้นในระดับสเกลขนาดจุลทรรศน์  หากเยอร์มันนีได้ล้มเลิกอุตสาหกรรมประเภทนี้มันจะขาดพื้นฐานการผลิตที่พัฒนาเป็นการผลิตขึ้นรูปผสมรุ่นต่อไปที่ มหาวิทยาลัยเทคนิดแห่งมิวนิคและห้องปฎิบัติการอื่นๆ
            กุญแจสำหรับการวิจัยนี้ออกมาจากห้องปฎิบัติการและนำไปสู่ตลาดก็คือการได้พันธมิตรอย่างใกล้ชิดระหว่างทีมวิจัยมหาวิทยาลัยและฐานอุตสาหกรรมไฮเทด นักอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีงบประมาณสำหรับการวิจัยจำนวนมากซึ่งหลายครั้งใช้ในการซื้อการวิจัยมาจากผู้อื่นไม่เหมือนองค์กรของอเมริกาหลายแห่งอาจตั้งกองทุนให้บริจาดเพื่อมหาวิทยาลัย  บริษัทของเยอร์มันปกติจะเข้าหามหาวิทยาลัยก็ต่อเมือพบปัญหาเป็นกรณีพิเศษที่เขาต้องการแก้ไข ณ.ที่ มหาวิทยาลัยเทคนิดแห่งมิวนิคมีตัวอย่างเช่น ฝ่ายขึ้นรูปผสม ได้รับทุนจากSGL  Carbon,ผู้ผลิตคาร์บอนด์ไฟเบอร์รายหนึ่งของเยอร์มันนี ต้องการรู้ว่ามีวัสดุชนิดไหนที่เหมาะสำหรับขบวนการผลิตในยุดหน้า  บี เอ็ม ดับบิลล์ BMW มีนักศึกษาทำปริญญาเอกในฝ่ายถึง 12ฝ่าย เป็นนักศึกษาที่ถูกจ้างไว้และโครงการ วิทยานิพนธ์ของพวกเขาก็เป็นส่วนของการเตรียการผลิต BMW i3 ด้วยเครื่องมือเครื่องจักรการผลิต อย่างเช่น หุ่นยนต์ KUKA และแท่นอัดประกอบ Manz แสดงถึงการผสมผสานอย่างลึกซึ่งกับทีมวิจัยมหาวิทยาลัย เช่นกัน
            เครือข่ายได้ขยายทวีคูณด้วยผู้ชำนาญการทางเทคนิคและวิศวกรของ มหาวิทยาลัยจำนวนมาก  ที่RWTH Aachen สถาบันมหาวิทยาลัยมากกว่า20แห่ง มุ่งเน้นไปยังเทคนิคการผลิตอย่างมีศิลปะผนวกไปกับเครื่องจักรการผลิต  บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์และพัฒนาซอฟแวร์เพื่อสร้างขบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพที่ประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานสูงอย่างเยอรมันนีสามารถแข่งขันได้กับจีน    RWTH Aachen ขณะนี้สร้างอาณาเขตบริเวณอุตสาหกรรมมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อรองรับบรรดาบริษัทที่เป็นพันธมิตรจะมาร่วมค้นคว้าวิจัย สถาบันเทคโนโลยี่ Karlsruhe ชำนาญในด้านนาโนเทคโนโลยี่และวัสดุศาสตร์ทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำทางเคมีของเยอร์มันนีชื่อ BASF ออกแบบสารประกอบใหม่ที่ทำให้แบตเตอรรี่เก็บพลังงานใหม่อีกครั้งอย่างมีประสิทธิภาพใช้ต้นทุนต่ำ  และมหาวิทยาลัยเทคนิคแห่งเดรสเดน Dresden นักวิจัยเป็นพันธมิตรร่วมกับผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์และกับบริษัทเทคโนโลยี่การสื่อสาร   กำลังพํฒนาไอซี IC ที่ใช้พลังงานเพียง 1 ใน 100 ของกระแสอีเล็คโทนิค
            รัฐบาลเยอร์มันนีก็กำหนดบทบาทอย่างเข็มแข็งให้ตั้งกองทุนสำหรับห้องปฎิบัติการชั้นเลิศในเรื่องการวิจัยศาสตร์พื้นฐานอย่างเช่น  Max Planck ระบบเครือข่าย 80 สถาบันของ Max Planck ครอบคลุมอย่างมีระเบียบลงไปถึงสาขาอนุภาคฟิสิกค์และการวิวัฒนาการทางชีววิทยา สถาบัน Fraunhofer Society เป็นสถาบันวิจัยของเยอร์มันนีที่ประสพความสำเร็จสมบรูณด้วยทรัพยากรที่สุด มีศูนย์เทคโนโลยี่ 60 แห่งได้รับทุนร่วมจากรัฐบาล งบประมาณประจำปีมีถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ ( ไม่นับรายได้จากสิทธิบัตรจากการคิดค้นต้นแบบข้อมูล MP3   เมื่อปี ค.ศ.  1980)
ความเชื่อมั่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
          การเป็นพันธมิตรกันอย่างแนบแน่นกับมหาวิทยาลัย แต่ละศูนย์ของ Fraunhofe ทำหน้าที่คล้ายสายพานส่งต่อไปยังกลุ่มบริษัทเครือข่าย กับศูนย์หนึ่งไปอีกศูนย์หนึ่งโดยการออกแบบร่วมกันวิจัยหาวิธีขบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์  จะมีหลายศูนย์สำหรับภาคอุตสาหกรรมต่ละประเภท อย่างเช่นการวิจัยโพลิเมอร์สำหรับบริษัทเคมี , ออฟติกที่ละเอียดสำหรับทำตัวตรวจจับและเลเซอร์ และการวิจัยขนาดนาโนเทคโนโลยี่เพื่อการผลิตส่วนประกอบอีเล็คโทนิกในยุคใหม่
            ศูนย์หลายแห่งอย่างสถาบัน ของ Fraunhofeสำหรับเทคโนโลยีการผลิตในเมือง Aachen มุ่งไปยังเทคนิคการผลิตที่มีประสิทธิภาพของต้นทุนเพื่อให้เยอร์มันนีแข่งขันได้ก้บจีน และการวิจัยขึ้นรูปผสม ( Composited )  มีโครงการหนึ่งของ Fraunhofe  ที่ Augsburgใกล้มิวนิคเกิดขึ้นมาในยุคของสงครามเย็น เป็นห้องปฎิบัติการวิจัยพลังขับเคลื่อนจรวด. การเป็นพันธมิตรกับ TUM และบริษัทอื่นมากกว่า 50 แห่งอย่าง BMW  Audi   Airbusเจ้าของEADS  ที่ศูนย์ Augsburg กำลังทำงานมุ่งไปยังการขึ้นรูปผสมไฟเบอร์ในยุคใหม่ ที่นำมาจากลิกนิน ไม่ใช้จากปิโตเลียมที่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์และ จากของที่เหลือจากการผลิตไม้ กระดาษ
            สิ่งที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลื่ยนแปลงมาสู่เทคโนโลยี่เหล่านี้ คือ การส่งสริมให้ความหวังในงานแก่นักวิจัยและวิศวกร  โดยเฉลี่ยนักวิทยาศาสตร์ของ Fraunhofe  จะย้ายไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมหลังผ่านงานมาได้ 5 ถึง 10 ปี วิศวกรชั้นยอดหลายคนยังคงทำหน้าที่เป็น ศาสตราจาร์ยหรือไม่ก็ผู้บริหารของ Fraunhofe ;  Klaus Drechsler ศาสตราจาร์ยและหัวหน้าสถาบันการขึ้นรูปผสมคาร์บอนด์ของมหาวิทยาลัยเทคนิดแห่งมิวนิคทำงานที่ EADS ในการพัฒนาการขึ้นรูปผสม เครื่องบิน แอร์บัส ปัจจุบันเขาอยู่ในการจัดตั้งศูนย์Fraunhofe  ใหม่ในเมือง Augsburg  การคาดหวังมีงานทำและการกระจายตัวผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี่  ขาดแคลนอย่างหนักในสหรัฐอเมริกา ที่นั้นนักวิจัยของรัฐมักจะทำงานอยู่ประจำที่เดียวตลอดชีวิต
            การร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นและหลากหลายนี้เป็นแบบฉบับนวตกรรมของเยอร์มันนี ส่วนใหญ่มันเกิดมาแล้วมากกว่า สิบปีระหว่างบริษัทต่างๆไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ปัจจุบันจะทำงานร่วมกัน พวกเขารู้โดยสามัญสำนึกว่า ข้อมูลเขาสามารถแบ่งปันและปกปิดเก็บเป็นลิขสิทธ์เฉพาะได้อย่างดีที่สุด “  ความเชื่อมั่นระหว่างบริษัทและสถาบันที่ทำงานร่วมกันแต่เติมเต็มความเป็ฯหนึ่ง คุณจะไม่พบเห็นในประเทศอื่น ๆหรอก  ” Benat Bilbao นักเศรษฐศาสตร์แห่ง World Economic Forum ในเจนีวา กล่าว  นอกจากนี้ในแต่ละปีจะมีรายงานแสดงให้เห็นว่า  เยอร์มันนีเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมนวตกรรมใหม่อยู่ในอันดับที่เหนือกว่าสหรัฐอเมริกาอีกด้วย  ส่วนใหญ่กลุ่มบริษัทและซับพลายเออร์พวกเขาเจริญเติบโตมากว่า สิบปีมาแล้ว ( บางกรณีเจริญยังยืนมากว่า ร้อยปี เช่น ผู้ผลิตนาฬิกาแถวป่าดำ ปัจจุบันเป็นผู้นำในโลกแห่งเครื่องมือแพทย์ผ่าตัด ) ทำให้พวกเขาไม่งายนักต่อก่รลอกเลียนแบบ
            เยอร์มันนียังคงสร้างสรร อย่างเครือข่ายใหม่ในอุตสาหกรรมแบบก้าวกระโดด หนึ่งในล่าสุดคือ Bioeconomy Cluster ตั้งอยู่ใกล้  Leipzig มีเครื่อข่ายบริษัทมากกว่า 60 แห่ง บริษัทและสถาบันวิจัย หาทางพัฒนาผลิตภัณฑ์เคมีพลาสติกจากมูลชีวะ Biomass ทดแทนการใช้ปิโตเลียมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์และมีต้นทุนสูง( ปิโตเลียมไม่พียงให้พลังงานน้ำมันแต่สามารถสกัดไปทำวัสดุผลิตภัณฑ์อื่นด้วย ) เมื่อ Fraunhofe ตั้งศูนย์เทคโนใหม่ ได้เลือกสถาบันบริษัทที่แข็งแกร่งอญุ่แล้วในงานของตนแทนที่จะพยายามสร้างบางสิ่งจากเริ่มใหม่
“  ปรัชญาบริษัทของเราคือการนำบางสิ่งที่ดำเนินการอยู่แล้ว รดน้ำลงไปเพื่อให้มันเจริญเติบโต ” ประธานสมาคม Fraunhofe, Hans Jorg Bullinger  กล่าว  ในการตั้งกลุ่มการผลิตขึ้นรูปผสม     คาร์บอนด์ ขึ้นใหม่  Fraunhofe คัดเลือกบริษัทที่มีอยู่แล้วและฝ่ายของมหาวิทยาลัย จัดสรรงบประมาณ ทีมบุคลากร และอุปกรณ์สนับสนุนเพิ่มเสริมการทำงาน
            ปรัชญาที่สอง Bullinger   กล่าวคือการให้คำมั่นที่ลากยาวไกล ศูนย์ Fraunhofeใหม่ มีระบบป้องกันงบประมาณโดยตนเอง ไม่มีการประเมินผลเพื่อขอขึ้นงบประมาณเป็นสองเท่าจากเอกชนเกิดขึ้นเพื่อในระยะห้าปี  บริษัทเองก็เช่นกันลงทุนเพื่อระยะยาว  อุตสาหกรรมนวตกรรมใหม่ของเยอร์มันนีส่วนใหญ่เป็นบริษัทภายในครอบครัวที่ไม่กังวลกับการรายงานช่วงไตรมาส บริษัทที่โดดเด่นอย่าง Trumsf เกือบจะไม่ปรากฎร่องรอยของการบริหารงานแบบครอบครัว ได้เป็นที่หนึ่งของโลกอุตสาหกรรมเลเซอร์เทคโนโลยี่ปัจจุบันมีรายได้เกือบ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ  Fraunhofe ก็เพิ่มนักวิจัย 3,000 ตำแหน่งในช่วงเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ “  หลายประเทศพยายาม ที่จะเลียนแบบเรา  ”  Bullinger  กล่าว “ แต่ความพยายามของเขาล้มเหลว เพราะเขาคิดวางแผนระยะสั้น  “
             นั่น  อาจจะเป็นรอยร้าวของโครงการ ของท่านประธานาธิดี บารักโอบามา เมื่อถูกพบว่าในเดือน มีนาคม จำนวนเงิน หนึ่งพันล้านเหรียญ  เครือข่ายแห่งชาติเพื่ออุตสาหกรรมนวตกรรมมีรูปแบบตามอย่างเยอร์มันนี   ถ้ารัฐสภาผ่านมัน จะเกิดเครือข่าย รัฐ-เอกชนดำเนินการในบริษัทอุตสาหกรรม มีศูนย์เทคโนการผลิต 15 แห่งกระจายทั่วประเทศ ยิ่งไกลยิ่งดี แต่งบประมาณตั้งไว้เพียง 4ปีแรก ตามความเห็นของ Bullinger มันยังสั้นและน้อย  “  อย่างไรก็ดี มันยังคงอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ” Bullinger  กล่าว

            แน่ละ ระบบเยอร์มันนีนี้มีจุดอ่อนเหมือนกัน  วัฒนธรรมที่พิถีพิถันก่อเกิดการดำรงอยู่ของเทคโนโลยีอย่างสมบรูณ์แบบมากกว่าแรงจูงใจอย่างรุนแรงของนวตกรรม  และชาติเยอร์มันนีก็เคยมีช่วงระยะแห่งความหวาดกลัวเทคโนโลยี่ ที่นักการเมือง นักกิจกรรมต่อต้าน ขับไล่อุตสาหกรรมไฮเทค เช่น ไบโอเทค ในปี ค.ศ.1980   แต่การขับเคลื่อนเพื่อนวตกรรมอุตสาหกรรมของเยอร์มันนีได้หยุดการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีต่ำ เป็นตัวอย่างให้เห็นวิธีแข่งขันไปกับจีน นักศึกษาที่กำลังจะกลายเป็นบัณฑิตที่อยู่ปฎิบัติการในห้องทดลองวิจัยเมืองมิวนิคเหล่านั้น  ถูกนำไปภาคอุตสาหกรรม เป็นรูปแบบตัวอย่างที่น่าเรียนรู้


ข้อสังเกตุ ในการประเมิณดัชนีความสามารถในการแข่งขันทั่วโลก  เยอรมันนีได้คะแนนสูงกว่าสหรัฐอเมริกาในหลายๆมิติ(หลายด้าน)อย่างเช่น คุณภาพของสถาบันและโครงสร้างหน่วยสนับสนุนต่างๆ ดูรูปกราฟประกอบ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







ไม่มีความคิดเห็น: