ในสหรัฐอเมริกา ฝ่ายเกษตรกรรม
ของรัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยข้อมูลว่า ประมาณหนึ่งในสามของอาหารที่มีสนองต่อตลาดผู้บริโภคคิดเป็นปริมาณ133 พันล้านปอนด์ต่อปีนั้น ไม่ได้ถูกบริโภคหรอกและหากคิดเป็นเงินมีมูลค่า 162พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกามากกว่ายอดขายชองเจนเนลรัลมอเตอร์ในปี2013
ตัวเลขนี้ยังไม่ได้คิดละเอียดไปถึงต้นทุนน้ำ พลังงาน
พื้นดินที่ใช้เพาะปลูก,ผลิต อาหารเหล่านั้น
นาย ด็อง รันช(Doug
Rauch)อตีดประธานบริษัทนายหน้าโจ(Trader Joe’s)มีความคิดถึงการมีส่วนในการแก้ปัญหานี้
การขายอาหารที่ผ่านเลยช่วงเวลาที่สดใหม่เหมาะสมกับการบริโภคไปแล้ว เป็นที่วิภาษวิจารณ์ถกเถียงแพร่ไปทั่ว
ถึงความเชื่อว่าวันเวลาที่ประทับอยู่บนห่อบรรจุภัณฑ์อาหารไม่ใช่เป็นวันบอกการหมดคุณภาพ(หมดอายุ)ของอาหาร
หรือชี้บ่งถึงความปลอดภัยของอาหาร และก็ไม่ได้รับการตัดสินอย่างเป็นทางการ(ยกเว้นอาหารสำหรับทารก)
อันที่จริงแล้วการขายเลยเวลาที่ระบุบนห่อบรรจุภัณฑออกไปเป็นการอนุมาณว่าคุณภาพที่ดีสุดของสินค้าไม่ถูกรับประกัน
ทึ่จริงแล้วมันยังอยู่ในสภาพดีอีกระยะเวลาหนึ่งจนกระทั้งร้านจำหน่ายโยนมันทิ้งออกไป(มีการประเมินว่าซูปเปอร์มาเก็ตทุกๆวันจะเคลียร์อาหารที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ตามเวลาที่ระบุตามป้ายทิ้งเป็นมูลค่าประมาณ
2,300 ดอลลาร์ออกจากตู้ชั้นวางของ... ข้อมูลปี2010จากเจ้าหน้าที่องค์กร American Wasteland )
ดังนั้น นาย รันช จึงมีแผนมีเปิดคลังเก็บในเมืองบอสตัน(Boston)เพื่อจำหน่ายขายอาหารดังกล่าว โดย(จัดการโลจิกติก)ซื้อสินค้าที่อยู่ในช่วงใกล้ครบกำหนดเวลาที่คุณภาพดีสุดจากแหล่งร้านค้าของชำต่างๆและผู้ปลูก,ผู้ผลิตแล้วหมุนเวียนขายให้ผู้บริโภคผู้ประกอบอาหารเท่าที่ทำได้ให้มากที่สุด
นาย รันช
หวังว่าสามารถแก้ปัญหาได้สองประการคือลดการทิ้งอาหารเป็นของเสียและสำคัญสุด
ช่วยผู้หิวโหย
ประมาณหนึ่งในหกของครัวเรือนประชากรสหรัฐได้อาหารไม่พอเพียง(ข้อมูลจากUSDA) นาย รันชยังเดินหน้าต่อแม้ทำตลาดขยายได้ใหญ่ขึ้น
เขาต้องการที่จะบริการให้กับผู้บริโภคที่ต้องการอาหารให้แคลอรีพอเหมาะแต่ไปรับประทานผิดประเภทเช่น
สแน๊ก,โซดา ฯลฯ และได้จัดตั้งร้านของชำการกุศลที่เรียกว่า Daily Table เหมือนธนาคารอาหาร(Food Bank) เขาหวังว่ารูปแบบโมเดลนี้จะเหมาะสม
เขากล่าวว่า “ การขจัดความหิวโหยส่วนใหญ่ คุณต้องทำการบริการให้มีคุณภาพ
กล่าวอีกแง่คือผมเติบโตได้ด้วยการสนับสนุนของพวกท่านทุกๆวัน ”
สำหรับการดำเนินงานของนาย รันช อาจอยู่บนจุดประสงค์บางสิ่ง
ขณะที่สหภาพยุโรป(ยียู)กำลังขจัดแยกอาหารอย่างเช่น ชีสและพาสต้าให้ดีที่สุดก่อนครบวันที่ระบุบนป้ายซึ่งสามารถลดอาหารเสียทิ้งได้ร้อยละ15
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น