จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พลังแห่งการนอนหลับThe Power of Sleep; (สรุปจากบทความ)


               เมื่อเราเข้านอน ดับไฟ ตอนที่หัวถึงหมอน  ดูเหมือนว่าเรา ร่างกายของเราจะยอมแพ้ทุกๆสิ่ง หมดสภาพ ปิดระบบทำงานของร่างกายแต่มันหาเป็นเช่นนั้นไม่ ยังมี  สมองที่เริ่มทำงานแต่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากในตอนกลางวัน  กลุ่มเซลประสาทนิวรอน(neurons) กระโจนเข้าสู่การปฏิบัติการ มันได้ถูกฝึกอย่างดีมาแล้วทำงานอย่างสอดคล้องสมบรูณ ปล่อยสัญญาณไฟฟ้าไปทั่วสมองด้วยการเคลื่อนไหลที่เรียบ ขณะที่การประมวลข้อมูลเป็นชุดๆที่ไหลท่วมสมองตลอดทั้งวันถูกจัดแพ๊คมันยากต่อการกระทำในที่สมองไม่ต้องการเวลาเป็นจริง สมองยังต้องตรวจเช็คตัวมันเองเพื่อให้แน่ใจถึงความสมดุลย์ของฮอร์โมน เอนไซม์และโปรตีน ในขณะนั้นก็ทำความสอาดขจัดเส้นใยที่เป็นพิษที่มันสามารถสร้างปัญหาได้มากมายเมื่อมันรวมตัวกัน              นักวิทยาศาสตร์เพิ่งได้เรียนรู้ภาวะของสมองตอนนอนหลับ มันเป็นยาเอกประสงค์โดยธรรมชาติ มากประสิทธิภาพกว่ายาใดๆที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและสมองมนุษย์ทำให้กลับมากระชุ่มกระชวย โดยทำตามข้อแนะนำให้หลับเจ็ดถึงแปดชั่วโมงต่อคืนสามารถส่งเสริมสมาธิ พัฒนาทักษะความจำและการวางแผนและค้ำจุนรักษาระบบเผาผลาญไขมันไม่ให้น้ำหนักมาก ถ้าเราหลับได้ตามข้อแนะนำ เราจะเปรียว มีโอกาสน้อยที่จะเป็นเบาหวานประเภท๒ และจะเป็นเคื่องช่วยต้านความเครียดความวิตกกังวล เราจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม,กระดูกพรุน,และมะเร็ง น้อยลง             การหลับจะทำงานชองมันอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อหลับเป็นระยะเลานานพอเพียงพูดได้ว่าการนอนเป็นช่วงเวลาที่สมองได้หายใจไม่งั้นมันจะหมดสภาพด้วยใยชีวะ(Debris)ของมันเอง การที่เซลร่างกายทำงานเผาผาญพลังงานมาตลอดวันทำให้มันปลดปล่อยอนุมูลอิสระที่เป็นพิษ จากผลทดลองกับหนู ระหว่างที่หลับ สมองจะปล่อยสารแอนตี้อ๊อกซิแด๊น(antioxidant)เพื่อขจัดสารพิษ  แต่ต้องเป็นระยะเวลาหลับที่นานพอไม่เช่นนั้นสมองจะทำงานหนัก(เพื่อเร่งขจัด)ทำให้มันแก่ขึ้น    




Your body on sleep ในเวลากลางวันร่างกายจะใส่ใจกับกิจกรรมต่างๆมากกว่าใส่ใจตัวเองแต่จะกลับตรงกันข้ามในเวลาหลับ พลังงานจำนวนมากอุทิศให้กับการซ่อมแซมเซล,สร้างโปรตีนที่เป็นประโยชน์และอื่นๆอีกมากในเวลาหลับกล้ามเนื้อได้รับการซ่อมแซมส่วนที่ฉีกขาด,เซลเนื้อสมองหดบีบใยชีวะ(Debris)ที่เสียออกมา,ที่ผิวหนังเซลจะปั่นสารองค์ประกอบออกมาเพื่อซ่อมแซมส่วนที่ถูกทำลายและคงสภาพคามยืดหยุ่นชองผิวไว้,ตับ ระหว่างหลับมันจะแตกย่อยเปลื่ยนสภาพน้ำตาลจากอาหาร,กระดูกที่แตกฉีกจะถูกซ่อมด้วยการสร้างเสริม(ภาพจาก...TIME  october27,2014)


              หากเรานอนไม่เพียงพอบ่อยครั้งเซลสมองจะแก่ลงและเป็นความกดดันต่อร่างกาย การนอนได้น้อยหรือนอนไม่หลับสนิทบ่อยครั้งไม่ได้เริ่มเกิดจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธ์หรือปัญหาเศรษฐกิจหน้าที่การงานเสมอไป แต่มันเพราะ วิถีชีวิตของเราในปัจจุบัน...ต้องเช็ดดูมือถือ ทุกนาที วางตารางกิจวัตรทุกชั่วโมง ไม่มี่เวลาวางมือจากหน้าจอตรงหน้า สิ่งเหล่านี้เร่งเร้าให้เกิดฮอร์โมนแห่งความเครียด ฮอร์โมนคอร์ติชอล(cortisol) รวมถึงแสงจากหน้าจอแสงอีเล็ดโทรนิกรบกวนหน่วยนาฬิกาชีวิตภายในตัวเรา กล่าวคือ ร่างกาย งง ไม่รู้เวลาไหนเป็นเวลานอนตามธรรมชาติปกติ              สิ่งมีชิวิตทุกชนิดใช้พลังงานในการดำรงด์ชีพแล้วมันก็ปล่อยของเสียออกมาส่วนใหญ่ขจัดขยะทางระบบLymp(ท่อน้ำเหลือง) สมองใช้พลังงานมากแต่ขจักชยะทางตับ นักวิจัยพบพวกเซลในสมองที่เรียกว่า gail cells ทำหน้าที่เป็นปั้มขจัดขยะของเสียออกไป แต่เซลพกนี้ทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอเมื่อร่างกานนอนหลับไม่เต็มที่อาจมีผลให้สมองเสื่อม การขจัดขยะของเซลพวกนี้ในสมองที่อายุมากขึ้นจะถี่ช้าลงกว่าสมองที่ยังหนุ่มทำให้เกิดการสะสมของเสียเป็นจุดแพร่กระทบไปยังเซลที่ปกติสมบรูณอื่นๆข้างเคียง รบกวนคามสามารถในการสร้างคามจำและการคืนความทรงจำหรือแม้แต่กิจกรรมง่ายๆทางสมองอื่นๆ               เมื่อแสงกลางวันเริ่มจางหายและเมื่อ เราเริ่มเข้าสู่สภาพเคลิ่มหลับเซล gail เริ่มทำงาน ลดความเร็วของคลื่นความถี่ สัญญาณสื่อประสาทลงเหลือหนึ่งในสาม ในระหว่างเฟสแรกของการหลับที่รู้จักในนาม non REM (non rapid eye movement)กระแสสัญญาณจะเป็นระเบียบและสอดคล้องกัน รอบวงจรซ้ำนี้ทำให้เซลประสาทอยู่ในความสงบเมื่อถึงเฟสต่อไปคือ REM ( rapid eye movement)กระแสสัญญาณเกือบไม่มีอยู่เลย มันจะสลับไปมาระหว่างสองเฟสนี้ในช่วงเวลาหลับเวลากลางคืนครั้งละหนึ่งชั่โมงครึ่งในแต่ละครั้ง   ขณะเดียวกันเซลสมองในเวลาหลับจะหดกระชับตัวสร้างพื้นที่ว่างเพิ่มให้สมองและน้ำไขสันหลัง ของเหลวนี้ไหลไปมาได้สะดวก(เหมือนเครื่องล้างจานเพิ่มพื้นที่ให้น้ำไหลชะล้าง)การทำความสะอาดนี้เกิดขึ้นได้ในเวลาที่เราตื่นเหมือนกันแต่ลดลงเหลือเพียง 15% เพราะเซล gail มีพื้นที่ว่างน้อยขณะที่นิวรอน(neurons)ขยายตัวอยู่ นั่นหมายความว่า เมื่อเราหลับไม่เพียงพอเซล gailทำงานขจัดขยะของสมองได้ไม่มีประสิทธิภาพขยะในสมองเพิ่มสะสมมากขึ้นจนไปเบียดเบียนทำล้ายเซลดีๆรอบข้างการแก้ไข นักวิจัยพบว่า ทดลองให้ผู้ที่นอนไม่พอเพียงในระหว่างสัปดาห์มานอนที่ห้องวิจัยตอนสุดสัปดาห์โดยนอนยาวถึง10 ชั่วโมงต่อคืนหากพบว่ามันเพิ่มความสามารถของอินซูลินในการลดเปลื่ยนน้ำตาลในเลือด แต่วิธีนี้นักวิจัยไม่กล้าแนะนำ มันเหมือนกับบอกคนทั่วไปว่าคุณจะกินอะไรก็ได้ที่ชอบในระหว่างสัปดาห์แต่ขอให้กินอาหารดีต่อสุขภาพตอนันหยุดสุดสัปดาห์            สำหรับยานอนหลับก็ไม่ใช่ตัวช่วยที่ถูกต้อง มันออกฤทธิ์ณ.บริเวณหนึ่งของสมองเท่านั้น ไม่สามารถให้สารเคมีเคลื่อนไปบริเณต่างๆตามระยะเฟสของการหลับได้ ผลของมันดีกว่าผู้ที่ยอมหลับเลยหรือผู้ที่ตื่นบ่อยระหว่างเวลาหลับและก็ไม่แน่ใจด้วยว่า การขจัดขยะสมองตอนใช้ยานอนหลับจะดีเท่ากับในระห่างการหลับแบบธรรมชาติ ผลของย้าต่อสมองเมื่อใช้ไปนานๆก็ไม่รู้ได้ ทางแก้ที่คาดคิดไว้ก็คือ การปรับตั้งวงจรหลับ-ตื่นของร่างกายให้เป็นตามธรรมชาติ ฝึกให้ร่างกายเราหลับได้ระยะเวลาเท่าๆกันทุกคืนและตื่นในช่วงเวลาใกล้เคียงกันและทางที่จะช่วยแบบนั้นได้คือให้ถูกแสงตามธรรมชาติมากเท่าที่ทำได้ในระห่างเวลากลางวันขณะเดียกันก็ควมคุมกำจัดเวลาการถูกแสงในบ้านให้น้อย(ไม่ใช่ธรรมชาติ)เช่น หน้าจอทีวี, หน้าจอคอมพิวเตอร์...ที่เราเห็นในตอนกลางคืน พฤติกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพต้องปรับเปลื่ยน ขณะเดียวกัน การอ่านหนังสือที่ชอบ อาบน้ำอุ่น หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เคลิบง่วงนอนได้ควรกระทำก่อนนอน... นักวิจัยกล่าว 

สกัดความจาก THE POWER OF  SLEEP,TIME  october27,2014









ไม่มีความคิดเห็น: