แน่ละผมจะไม่เสแสร้งที่จะคิดพิจารณามันในแง่ของความมหัศจรรย์แปลกประหลาดหรอกก็กรณีพิเศษของคนไข้ราย นาย เอ็ม วอลดีมาร์ ไม่หรอก ไม่วิเศษวิโสภายใต้สถานการณ์อะไรหรอกลอดทะลุทะลวงความหือกระหายของผู้คนทั้งหลายที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องราวต่อสาธารณชน อย่างน้อยสำหรับในปัจจุบันหรือจนกระทั้งเราได้โอกาสต่อไปในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในความพยายามอย่างยิ่งยวดสำหรับการนี้ มันได้เพิ่มพูนต่อสาธารณชนกลายเป็นแหล่งของเรื่องราวที่ไม่น่าอภิรมย์ลือกันอย่างผิดๆ และจะกลายเป็นนิยายโดยปริยาย
มันถึงเวลาแล้วที่ผมต้องเปิดเผยความจริง เป็นเวลานานกว่าที่ผมจะได้เรียบเรียงลำดับเรื่องด้วยตนเอง เรื่องก็มีอยู่ว่า :
สามปีมาแล้วที่ผมได้ให้ความสนใจแก่วิชาสะกดจิตและเมื่อเก้าเดือนมานี้มันเกิดกับผมอย่างกะทันหันโดยไม่รู้ตัว การทดลองที่เป็นชุดต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงบัดนี้ ที่น่าจดจำไม่ควรละเลย ยังไม่มีผู้ใดเลยถูกสะกดจิตให้ไปสู่จุดแห่งความตาย มันยังตราตรึงอยู่ให้เห็น ระยะแรก เมื่ออยู่ในสภาพอย่างนั้น คนไข้จะรับรู้ได้ถึงพลังของสนามแม่เหล็ก ระยะที่สอง อะไรก็ตามที่คงอยู่ในตัวคนไข้มันจะไม่สมบรูณ์และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเงื่อนไขสภาพการณ์ ระยะที่สาม เมื่อระยะเวลาเนิ่นนานออกไปความตายก็จะล่วงละเมิดบุกรุกเข้ามาครอบงำและถูกจับไว้โดยขบวนการ แต่ก็มีมุมมองด้านอื่นๆ หลายประเด็นที่ไม่แน่นอนแต่น่าสนใจโดยเฉพาะสิ่งสำคัญท้ายที่สุดจากลักษณะที่เป็นผลติดตามมาเหลือคณานับ
ในการศึกษาของผม ผมมองไปรอบๆ เพื่อหา ใครสักคนเพื่อพิสูจน์สมมุติฐาน ผมคิดถึงเพื่อนของผมที่ชื่อ เอ็ม เอรเนส วอลดีมาร ผู้ที่รู้จักกันอย่างดี เป็นผู้ปริวรรตภาษาใน คัมภีร์ไบเบิล วอลเลนสเตนแอนการกาทูล ภาคภาษาโปแลนด์ฉบับของวอลเลนสไตน เอ็มวอลดีมาร์อาศัยอยู่ในแถบฮาร์เลม ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของแม่น้ำแมนฮัดตั้น นิวยอร์ก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1839 ผมสังเกตว่าเขาเป็นคนมีอารมณ์ฉุนเฉียว ส่วนล่างเขาเหมือนกับ จอนห์ แรนดอฟ หนวดเคราที่ขาวโพลนขัดกับเส้นผมที่ดำสนิทจนพาคิดกันไปว่ามันเป็นวิกผม มันเป็นผลจากอารมณ์ของเขาที่มักประสาทฉุนเฉียวอย่างเห็นได้ชัดเหมาะต่อการนำเขามาสู่การสะกดจิตของผม มีอยู่สอง-สามครั้งที่ผมต้องลำบากเล็กน้อยในการสะกดจิตให้เขาหลับแต่ก็เกิดผิดหวังในผลอื่นที่ได้ อำนาจจิตของเขาไม่อยู่ในช่วงผลบวกแต่ประการใดจิตวิญาณของเขา ไม่มีช่วงสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจน หรือยอมอยู่ใต้การควมคุมของผมแต่ผมก็สามารถสะกดวมคุมสำเร็จโดยไม่ต้องพึ่งสิ่งใดๆ ผมมักจะอ้างเหตุผลเสมอ ถึงความล้มเหลวในประเด็นเหล่านั้นว่ามาจากสุขภาพไม่ดีของเขา ก่อนที่ผมจะทำลดลองกับเขา แพทย์ส่วนตัวของเขาได้เปิดเผยกับผมว่า เขาป่วยเป็นวัณโรคสภาพร่างกายเขาได้ทรุดโทรม เสื่อมสลายลงไปมากและดัวยจรรยาแพทย์ เขากล่าวอย่างราบเรียบว่าเขากำลังสู่เข้าสู่ความตาย
เมื่อบรรดาความคิดต่างๆ ผุดขึ้นมา แน่ละผมควรจะคิดถึง เอ็ม วอลดีมาร์ ผมรู้เกี่ยวกับปรัชญาและหลักการของเขาดี ที่จะวิตกถึงจริยธรรมนั้น ตัวเขาเองก็ไม่มีญาติพี่น้องใดๆ ในอเมริกานี้ที่ข้องแวะสัมพันธ์ ผมจึงพูดกับเขาอย่างเปิดอก ถึงจุดประสงค์ของโครงการ ผมกลับได้รับความประหลาดใจ เขาดูเหมือนสนใจตื่นเต้นมาก เขายอมอุทิศร่างกายอย่างอิสระให้แก่การทดลองของผม เขาไม่เคยแสดงสัญญาณใดๆ ที่จะแทรกแซงกับสิ่งที่ผมทำ โรคประจำตัวของเขามีลักษณะที่จะต้องยอมรับการถูกประเมิน แล้วว่า เข้าใกล้ความตายไปทุกขณะ และในที่สุดเราได้ตกลงกันว่า เขาจะมอบเวลา 24 ชั่วโมงช่วงสุดท้ายก่อนที่จะถูกประกาศจากแพทย์ประจำตัวว่าถึงสภาพนั้นแล้ว
และตอนนี้เป็นเวลามากกว่าเจ็ด เดือนแล้วที่ผมได้รับโน้ตจากเขา เอ็ม วอลดีมาร์ ที่เขียนด้วยตัวของเขาเองว่า
‘ นายแพท..,ที่เคารพของผม คุณควรจะมาหาผมได้แล้ว ตอนนี้ ดี...และเอฟ...เห็นพ้องกันว่า ผมไม่สามารถทนมีชีวิตอยู่ได้ถึงเที่ยงคืนพรุ่งนี้ และผมคิดว่า พวกเขาเร่งเวลาให้มันใกล้เข้ามาทุกขณะ
จาก เอ็ม วอลดีมาร์ ’
ผมได้รับโน้ตนี้ภายในครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่เขาเขียนถึงผม ผมอยู่ภายใต้อาการช็อต มากกว่า 15 นาที ผมไม่ได้พบเขามาสิบวันแล้ว มันทำให้ผมใจหายด้วยกลัวว่า อาจเกิดความผิดผลาดในช่วงสั้นมาสู่เขา เฉดสีใบหน้าของเขาไม่มีชีวิตชีวา นัยน์ตาปราศจากเงามัน อย่างสมบรูณ์แบบ และร่างกายผ่ายผอมแห้งเสียจนหนังของเขาหด แตกออกจากการที่กระดูกทิ่มแทงออกมา จะคาดหวังจากเขาไม่ได้มากแล้ว ชีพจรแผ่วเบายากที่จะตรวจวัด อย่างไรก็ตามเขาประคับประคองไว้ในลักษณะอากัปอาการทั้งจิตใจและร่างกายในระดับหนึ่งเท่านั้น เขาเปล่งเสียงพูดได้ชัดเจน กินยาบรรเทาอาการบางอย่างได้โดยไม่ต้องใช้คนป้อน และเมื่อผมเดินเข้าไปในห้องพร้อมด้วยสมุดจดบันทึก เขากำลังอยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน ด็อกเตอร์ดี...และ ด็อกเตอร์เอฟ ..ก็อยู่เคียงข้างทั้งคู่
หลังจากทักทายจับมือกันแล้วผมก็ไปยืนเคียงข้างเขาทั้งสองและเรียนรู้จากการรายงานสั้นๆ หนึ่งนาทีเกี่ยวกับคนไข้ ปอดข้างซ้ายได้กลายสภาพเป็นกึ่งกระดูกอ่อนเป็นเวลานานถึงสิบแปดเดือน ปอดข้างขวาส่วนบนเป็นกระดูกบางส่วน ส่วนไหนที่ไม่เป็นกระดูกก็จะเกิดมีหนอง ปุ่มเม็ดจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งและปรากฏเป็นรูพรุนอยู่หลายแห่งด้วย ณ.จุดหนึ่งปอดจะติดกับซีกโครงโดยถาวรไปอย่างรวดเร็วผิดปกติ เมื่อเดือนที่แล้วยังไม่เกิดขึ้นเลยเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อ3วันก่อนแต่ไม่ได้เป็นวัณโรคปอด คิดว่าคนไข้เกิดภาวะหลอดโลหิตโปงพองเป็นถุงขังโลหิตที่เส้นเลือดใหญ่เลี้ยงหัวใจ หากสังเกตุจากตำแหน่งนี้กลายสภาพเป็นกระดูก ทำให้การวินิจฉัยชี้ชัดเป็นไปไม่ได้ นายแพทย์ทั้งสองลงความเห็นว่า เอ็ม วอลดีมาร์ จะต้องตายประมาณเที่ยงคืนพรุ่งนี้(วันอาทิตย์ )ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาเจ็ดโมงเย็นของวันเสาร์
เมื่อไม่มีเรื่องที่จะสนทนากับผมแล้ว ด็อกเตอร์ดี..และด็อกเตอร์เอฟ..กล่าวอำลาคนไข้ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่อยากกลับมาอีกแต่ด้วยการขอร้องจากผมพวกเขาเห็นด้วยที่จะกลับมาดูคนไข้อีกครั้งประมาณ สิบนาฬิกาสี่ทุ่ม คืนพรุ่งนี้
เมื่อพวกเขาจากไปผมได้พูดกับเขา เอ็ม วอลดีมาร์โดยลำพังถึงการนำเขามาสู่การทดลอง เขายังมั่นคงแม้นจะปนไปด้วยความโกรธอยู่บ้างและเร่งเร้าให้ผมเริ่มโดยทันที โดยมีนางพยาบาลและผู้ช่วยชายหญิงคู่หนึ่งก็อยู่พร้อมที่นั้นแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความมีอิสระในการผูกมัดกับภารกิจที่มีลักษณะไม่อาจเชื่อถือได้ของพยานรู้เห็นสองท่านนี้ บางที่อาจเกิดกรณีกระทันหันเกิดขึ้นที่อาจต้องพิสูจน์ ผมจึงขอเลื่อนการทดลองออกไปเป็นเวลา(สองทุ่ม) 8นาฬิกาของ คืนถัดไปในระหว่างนี้เพื่อรอคอย นักศึกษาแพทย์ที่ผมคุ้นเคย(มิสเตอร์ ทีโอดอร์ เอล..ล)ให้ช่วยแบ่งเบาภาระอุปสรรค์ภายภาคหน้ามันเป็นเจตนาเดิมตั้งแต่แรกของผม แต่ผมมาถูกชวนให้ดำเนินการ ประการแรกจากการร้องของ เอ็ม วอลดีมาร์ ประการที่สองจากการทบทวนตรวจสอบแล้วว่า ผมไม่อาจเสียเวลาได้อีกขณะที่เขาอาการแย่ลงทุกที
มิสเตอร์เอล..ลเป็นผู้ที่ยินยอมตามที่ผมสั่งเขาจะจดบันทึกทุกอย่างที่อุบัติขึ้น และจากสมุดจดบันทึกของเขานี้เองที่ผมใช้มันเกือบทั้งหมดมาร่วมเสนอรายงานนี้ด้วย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการอ้างไว้คำต่อคำที่เดียว
เมื่อถึงเวลา 8 นาฬิกา ผมขอเวลาประมาณ 5 นาทีจับมือคนไข้ไว้ ผมขอให้เขาทำตัวอยู่ในฐานะเปิดเผยเท่าที่ทำได้ กับมิสเตอร์ เอล..ลด้วยไม่ว่าเขา (เอ็มวอลดีมาร์)จะตั้งใจยอมรับทั้งหมดหรือไม่ ผมก็จะทำการทดลองกับเขาในสภาพเงื่อนไขถูกสะกดจิตอย่างนั้น
เขาตอบรับอย่างเบาอ่อนโรยแต่ก็ยังได้ยินออกมาว่า“ ครับ ผมหวังไว้กับการสะกดจิตนี้ ” “ ผมเกรงว่าคุณหมอจะถูกละ..คล้อยตามมันไปจนยาวนานด้วย ”
ขณะที่เขาพูดอยู่นั้นผมเริ่มส่งผ่านกระแสจิตด้านข้างโดยยกมือขึ้นเหนือหน้าผากเขา การครอบงำได้ผล ควมคุมเขาอย่างมีประสิทธิภาพ ตอนแรกจากการสัมผัสด้านข้างผม?ยกขึ้นมาเหนือหน้าผากของเขา แต่ถึงแม้ผมจะเพิ่มพลังของผมทั้งหมดหาได้เกิดผลอะไรไม่ จนกระทั้งหลายนาที เวลาผ่านไป 10นาที เมื่อ ด็อกเตอร์ดีและเอฟ มาถึงตามที่ได้นัดหมายไว้ ผมได้อธิบายให้เขาฟังด้วยถ้วยคำไม่กี่คำถึงสิ่งที่ผมได้วางแผนเอาไว้ เขาก็ไม่คัดค้านบอกว่าคนไข้ได้ทนทุกข์ทรมานเข้าสู่ความตายแล้ว ผมเริ่มทันทีโดยไม่รีรอ เปลี่ยนท่าส่งผ่านกระแสจิตทางด้านข้างจากบนลงล่างแล้วจ้องมองไปยังดวงตาผู้ป่วยผู้ที่ถูกทรมาน
ณ.ตอนนี้ชีพจรและลมหายใจของเขาอ่อนระรวยจวนเหือดหายขาดเป็นช่วง ครึ่งนาทีต่อช่วง
สภาพอย่างนี้ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลา เสี้ยวของชั่วโมงและในช่วงท้ายอย่างเป็นธรรมชาติเขาถอนหายใจอย่างลึกเฮือกหนึ่งหลุดออกมาจากก้นลึกทรวงอกของชายที่กำลังจะตายแล้วลมหายใจที่ระรวยนั้นก็ยุติลง นี่พูดได้ว่ามันไม่ปรากฏให้เห็นอีกแม้แต่ช่วงหยุดหายใจ มือเท้าคนไข้เย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง
ณ.เวลาอีกห้านาทีจะถึงสิบเอ็ดนาฬิกา ผมได้รับสัญญาณที่เด่นชัดถึงผลลัพธ์จากการสะกดจิตลูกตาเขากลึ้งกรอกไปมา บ่งบอกถึงการตรวจสอบสภาพภายในที่ไม่ชัดเจนและไม่เคยเห็นมาก่อนยกเว้นในผู้เดินละเมอ? มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดการผิดพลาดขึ้น ด้วยการโบกผ่านกระแสจิตข้างๆ ให้เร็วขึ้นเล็กน้อยทำให้เห็นเปลือกตาเขาสั่นระริก นี่ สภาวะหลับกำลังก่อตัวขึ้น สักพักผมก็ปิดมันลงได้ ผมไม่พอใจสำหรับแบบนี้ อย่างไรก็ตามผมก็ดำเนินการต่อ จับโน่นผสมนี่ไปเรื่อยอย่างแข็งขันกระฉับกระเฉง ด้วยการออกแรงเพ่งกระแสจิตเต็มพลังจนผมสามารถบังคับแขนขาของเขาทิ้งลงนอนได้ วางลงในตำแหน่งเหมาะสมแล้ว ขายาวเหยียดเต็มที่แขนก็เหมือนกันแนบข้างกายตั้งแต่บริเวณซี่โครงถึงเชิงกรานโดยศีรษะยกสูงขึ้นเล็กน้อย
กว่าจะให้อยู่สภาพนี้ก็ได้เวลาเที่ยงคืน ผมขอร้องให้บรรดาสุภาพบุรุษตรวจสภาพของ เอ็ม วอลดีมาร์ หลังจบการตรวจเล็กน้อยพวกเขายอมรับว่า เอ็ม วอลดีมาร์อยู่ในสภาพไม่ธรรมดาในสภาพถูกสะกดจิต แพทย์ทั้งสองตะลึง งงงัน ด็อกเตอร์ ดี..จะขออยู่กับคนไข้ขณะที่ด็อกเตอร์เอฟ..ขอจากไปจะกลับมาอีกในวันพรุ่ง มิสเตอร์เอล..ลและ พยาบาลสาวยังอยู่
พวกเราละจาก เอ็มวอลดีมาร์ไม่รบกวนเขาจนถึงสามโมงเช้า เมื่อผมเข้าไปใกล้ สภาพเขายังเหมือนเดิมตอนที่ด็อกเตอร์เอฟ..จากไป แสดงว่าเขานอนอยู่อย่างนี้ตลอด ชีพจรยากแก่การตรวจจับ ลมหายใจแผ่วเบา สงบ ยากที่จะสัมผัส ทางเดียวที่จะรู้ได้คือรอยฝ้าไอน้ำที่ปรากฏบนแผ่นกระจกจ่อจมูก ดวงตาปิดสนิท แขนขาแข็งทื่อ เย็นดุจหินอ่อน สภาพทั่วไปทั้งหมดแน่นอนยังเป็นอยู่ ยังไม่ตาย
ผมเริ่มส่งผ่านพลังครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มือขวาของเขาปฏิบัติตามคำสั่งของผม โดยส่งผ่านจากด้านหลังไปด้านหน้าเหนือตัวเขา การกระทำแบบนั้นที่ผ่านมากับคนไข้ไม่เคยได้ผลสมบรูณ์แบบมาก่อนและผมก็หวังผลเล็กน้อยเท่านั้น แต่ปรากฏว่ามันทำให้ผมประหลาดใจ แขนของเขายกขึ้นตามสั่ง อำนาจจิตของผม ถึงแม้จะแข็งทื่อ ผมจึงตัดสินใจเริ่มบทสนทนาขึ้น
“ เอ็ม วอลดีมาร์ “ผมถาม” คุณกำลังหลับหรือ? ” เขาไม่ตอบแต่ผมเห็นริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย ผมจึงถามซ้ำลงไปอีกและอีกเป็นครั้งทีสามที่นี้ โครงร่างกายสั่นขึ้นเล็กน้อยเปลือกตาเปิดเผยอออกให้เห็นเส้นสีขาวของลูกตา ริมฝีปากเริ่มเคลื่อนไหวขยับออกช้าๆ ระหว่างมันทั้งสองมีเพียงเสียงกระซิบเล็ดลอดออกมาว่า
“ ใช่.......นอนหลับ..(ตอนนี้)อย่าปลุกผมเลย ปล่อยผมตายไป! ”
ผมรู้สึกว่าแขนขาเขาแข็งทื่อ เหมือนเก่า แขนขวาก่อนนี้จะเชื่อฟังยกตามการสะกดของผมตามที่ผมชี้ ผมถามผู้ถูกปลุกให้ตื่นอีกหน
“ คุณรู้สึกเจ็บที่หน้าอก ไหม เอ็ม วอลดีมาร์ ? ” คำตอบสวนกลับมาทันทีแต่ค่อยกว่าเดิม
“ ไม่.....ผมกำลังตาย ”
ถ้าไม่คิดว่ามันจะมีข้อแนะนำที่จะรบกวนเขามากกว่านี้ จึงไม่มีอะไรจะพูดหรือกระทำอีกจนกระทั้งก่อนตะวันจะขึ้นเล็กน้อย ด็อกเตอร์เอฟมาถึงแสดงความประหลาดใจอย่างไม่มีขอบเขตที่คนไข้ยังมีชีวิตอยู่ เขาตรวจชีพจรและดูกระจกอังที่ริมฝีปาก เขาจึงขอร้องให้ผมพูดกับผู้สำนึกจากหลับอีกครั้ง
“ เอ็ม วอลดีมาร์ ,คุณยังคงหลับอยู่หรือ ? ”
เหมือนดังก่อนหน้านี้ หลายนาทีผ่านไปก่อนจะมีคำตอบระหว่างทิ้งช่วงดูเหมือนว่าผู้ที่กำลังตายรวบรวมพลังที่จะเปล่งเสียง ครั้นเมื่อผมถามเป็นครั้งที่สี่นั้นแหละ เขาจึงตอบกลับมา เสียงเลื่อนๆเกือบจะไมได้ยิน
“ .ใช่ยังหลับ ... กำลังตาย “
ตอนนี้วัตถุประสงค์หรือความปราถนาของบรรดานายแพทย์ ก็คือ เอ็ม วอลดีมาร์คงต้องได้รับความเจ็บปวดทรมาณคงอยู่ไม่ให้ไปรบกวน ความเงียบสงบของเขาอยู่จนกว่าภาวะตายจะเข้ามาแทนที่และครอบงำ นี่เป็นการเห็นพ้องโดยทั่วไป ว่าจะต้องให้เกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีนี้ ผมสรุปว่าอย่างไรก็ตาม จะพูดถามเขาอีกครั้งเพื่อทวนคำถามเมื่อชั่วครู่นี้
ขณะที่ผมพูด มีการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของผู้ถูกปลุกจากการหลับ ลูกตากลิ้งหมุนตัวเปิดออกอย่างช้าๆ ม่านตาหายไป ผิวหนังซืดเผือกเหมือนศพ เฉดสีความเข็มจางลงคล้ายแผ่นหนังสัตว์แต่มีสีขาวและเต็มไปด้วยจุดกลมลักษณะแปลกน่าใจหายเกิดทั่วไปเต็มไปหมด มันคงอยู่จนบัดนี้ ตรงกลางแก้มแต่ละข้างหายไปแต่ละข้าง ชั่วครู่ผมทราบดีกับปรากฏการณ์แบบนี้เพราะเทียบกับการที่เปลวเทียนวูบดับโดยเฮือกลมหายใจ ริมฝีปากบนเขาโค้งงอออกจากแถวซีกฟัน ขณะที่ขากรรไกรล่างย้อยง้างตกลง ได้ยินเสียงตะกุกตะกัก ปล่อยให้ปากเปิดอ้าออกกว้างเผยให้เห็นฟันเต็มๆ ภาพบวมเปล่งของของลิ้นที่มีสีดำ ผมอนุมาณได้ว่าไม่มีใครในที่นี้จะไม่เคยเห็นการนอนตายบนเตียงที่น่าสยดสยองมาก่อน แต่มันซ่อนอยู่ในรูปแบบการปรากฏของเอ็ม วอลดีมาร์ขณะที่เห็นตอนนี้ มีการหดตัวกลับบริเวณส่วนด้านหลังของเตียง
ผมรู้สึกว่าได้มาถึงจุดที่การบรรยายที่ผู้อ่านแต่ละท่านเริ่มคิดว่าเป็นไปไม่ได้ไม่น่าเชื่อ แต่มันเป็นงานของผมอย่างไรก็ตามไม่ยากเกินการบรรยาย
กรณีของ เอ็ม วอลดีมาร์ไม่มีสัญญาณของสลบหน้ามืดชั่วครู่ สรุปได้ว่า เขาสิ้นชีพ ตาย เราสั่งให้พยาบาลทำการชาร์ตกระตุกเขา เห็นการสั่นระรั่วของลิ้น นี่กินเวลาหนึ่งนาทีแล้วก็ตามและเสียงที่ออกมาโดยขากรรไกรไม่ขยับ มันยากสำหรับผมที่จะพยายามอธิบายใช้ศัพท์เพียงคำสองสามคำ ที่พิจารณาแล้วน่าจะใช้ได้ ผมอาจบรรยายว่า เสียงเขามันพร่าปร่าแตกแต่น่าเกียจน่ากลัวอธิบายไม่ได้ทั้งหมด เหตุผลง่ายที่ผมไม่คุ้นเคยกับเสียงนั้นทำให้สั่นประสาท มันมีสองส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างไรก็ตามที่ผมคิดไว้และยังฝั่งใจอยู่ อาจเป็นลักษณะของการสวดท่องมนต์ เช่นเดี่ยวกับการแปลงความคิดบางอย่างที่มันไม่ธรรมดา เสียงมาถึงพวกเราอย่างน้อยก็ถึงผม จากระยะห่างไกลหรือจากที่ลึกๆ สักแห่งใต้โลกประการที่สอง มันประทับใจผมมาก ผมเรียบเรียงบอกอธิบายไม่ถูก เหมือนวุ้นหรือสารเหมือกเหนียวที่ผมไปจับแตะต้อง
ผมได้สื่อสารกับเขาทั้งที่เป็นเสียงคำพูดและเป็นคำพูด ผมหมายถึงสำเนียงโดดๆ ที่น่าประหลาดตกใจขวัญหายเปล่งออกมาเป็นพยางค์ เอ็ม วอลดีมาร์ ได้พูดตอบคำถามที่ผมเสนอไปเมื่อไม่กีนาที่ก่อนหน้านี้ ที่ผมถามเขา และมันยังทำให้เเขาจำได้ ถ้าเขายังหลับอยู่ เขาตอบว่า
“ ใช่.....ไม่ ; แรกเดิมผมกำลังหลับและมาตอนนี้..ตอนนี้ ผมตาย ”
ไม่มีใครสักคนที่นั้นจะปฏิเสธหรือแม้แต่จะพยายามสะกดอดกลั้น การสั่นกลัวระริกจากเสียงไม่กี่คำเหล่านี้ได้ มันทำให้ มิสเตอร์เอล..ล นักศึกษาสลบหลับไป นางพยาบาลก็รีบหนีออกไปทันทีโดยไม่กลับเข้ามาอีก สำหรับผมเองเกิดความประทับใจโดยไม่เสแสร้งที่แสดงความอวดฉลาดให้ผู้อ่านรับรู้ เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงที่พวกเรามุ่งกับงานอย่างเงียบๆ ไม่เอ่ยวาจาใดๆในความพยายามปลุกปฐมพยาบาลให้มิสเตอร์เอล..ลฟื้นแล้วพวกเราก็กลับไปตรวจอาการ เอ็มวอลดีมาร์อีกหน
มันยังคงอยู่ในสภาพที่ผมได้อธิบายไว้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ไม่ปรากฏสัญญาณลมหายใจแม้นแต่บนแผ่นกระจก ความพยายามที่กระตุ้นไหลเวียนโลหิตจากแขนล้มเหลว ผมขอระบุลงไปเลยว่า ณ.แขนขา ตอนนี้ไม่ใช่จุดประสงค์ของผมอีกต่อไป ความบากบั่นพยายามไร้ประโยชน์ที่ทำให้มันยกขึ้นตามการชี้ของมือผม เอ็มวอลดีมาร์ ดูเหมือนจะพยายามที่จะตอบสนองแต่การตั้งใจไม่พอเพียง ผมลองให้คนอื่นถามเขาแทน เขาไม่รับรู้ แม้ว่าผมพยายามสะกดจิตสมาชิกคนอื่นสายสัมพันธ์โยงใยไปกับเขาด้วยก็ตามผมเชื่อว่าผมได้สร้างสายสัมพันธ์ทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อให้ผู้ถูกปลุกจากหลับ ได้เข้าใจตามขั้นตอน การพยาบาลได้ดำเนินต่อไปอีก เมื่อถึง 10นาฬิกา ผมและคณะนายแพทย์สองท่านและมิสเตอร์เอล..ลก็ออกจากบ้าน
ในตอนบ่ายพวกเรานัดมาเจอกับคนไข้กันอีก พวกเราได้ถกเถียงพิจารณากันถึงความเป็นไปได้ที่จะปลุกเขาขึ้นมา แต่ก็เห็นไม่ตรงกัน ที่ว่าไม่มีข้อเสนอที่ดีที่จะสนับสนุนการปฏิบัติงาน ดังนั้นความตาย หรือสภาพอะไรก็ตามที่ใช้คำจำกัดความว่าความตาย ได้ถูกจับครอบงำโดนขบวนการสะกดจิต เราเห็นได้ชัดว่าทั้งหมดที่ปลุก เอ็ม วอลดีมาร์เป็นเพียงให้แน่ใจว่าชั่วคราวหรือไม่ เร่งเร้าให้ยุติสิ้นสุดลง
จากช่วงเวลานี้จนจบสัปดาห์สุดท้าย มันเกือบเจ็ดเดือนที่เดียว เราได้เฝ้าดูอาการ เอ็มวอลดีมาร์ที่บ้านทุกวันโดยมีผู้อื่นติดตามไปบ้าง นายแพทย์หรือไม่ก็เพื่อนฝูง ผู้นอน-ผู้ถูกปลุกให้ตื่นยังคงมีลักษณะเช่นเดิม เหมือนที่ผมจดบันทึกบรรยายไว้ โดยการเฝ้าดูแลพยาบาลจากนางพยาบาลตลอดเวลา
เมื่อถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา เราตัดสินใจที่จะยุติการทดลองโดยการปลุกหรือพยายามปลุกเขา และประการหลังมันเป็นการบังเอิญ,โชด ,ผลไม่ดี ซึ่งมันจะทำให้เกิดการถกเถียง นี้วนเวียนมากจนผมอดคิดไม่ได้ถึงความรู้สึกที่ไม่มีเหตุผลแพร่กระจายกันไปทั่ว
สำหรับจุดประสงค์ที่จะนำ เอ็มวอลดีมาร์ ออกจากการถูกสะกดจิต ผมคุ้นเคยกับกรรมวิธีเหล่านี้เสมอ ครั้งนี้แหละที่ไม่สำเร็จ สิ่งแรกที่ชี้บ่งการคลายสะกดจิตคือ ม่านตาที่เลื่อนต่ำลงมีคราบน้ำเหลืองไหลย้อนออกมาใต้เปลือกตาส่งกลิ่นฉุน ตอนนี้มีการเสนอให้ผมพยายามส่งกระแสจิตบังคับเหนือแขนซ้ายของเขา ผมลองดูแต่ไม่สำเร็จ ด็อกเตอร์เอฟ ขอร้องให้ผมถามเขาอีก
“ เอ็ม วอลดีมาร์ ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรหรือต้องการอะไร? อธิบายได้ไหม? ”
ฉับพลันก็มีแนววงกลมปรากฏที่แกล้มทั้งสองข้าง ลิ้นสั่นรั่วหรืออาจม้วนตัวกลับรวดเร็วในปากแม้นว่าขากรรไกรยังแข็งทื่ออยู่ มีเสียงน่าพิลึกเขย่าขวัญอย่างที่เคยบรรยายไว้ดังขึ้นมา
“ เพื่อเห็นแก่พระเจ้า เร็ว! เร็ว! นำผมกลับสู่การหลับ หรือไม่ เร็ว! ปลุกผม! เร็ว! ผมบอกคุณว่าผมตาย ”
ผมไม่ประสาทอะไรหรอกสำหรับการไม่รีบตัดสินใจกระทำอะไรลงไป ตอนแรก ผมพยายามอย่างมากที่จะจัดท่าทางคนไข้แต่ต้องล้มเลิกความตั้งใจ ผมตรวจย้อนขั้นตอนของผม ทำทุกวิถีทางปลุกเขาให้ได้ ในที่สุดผมก็พบว่า ผมอาจประสพความสำเร็จหรืออย่างน้อย ผมก็จินตนาการไปเองว่าสมบรูณ์แบบแล้ว ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่าคนในห้องนี้ เตรียมตัวเรียมใจเพื่อให้เห็นคนไข้ฟื้นตื่นขึ้นมา
สำหรับความจริงต่างๆที่อุบัติขึ้น อย่างไรก็ดีมันเป็นไปไม่ได้ที่ความเป็นมนุษย์สามารถดำเนินการให้ถูกตระเตรียมและประกอบขึ้นได้
ขณะที่ผมปล่อยให้การสะกดจิตผ่านไปโดยเร็ว มีเสียงทะลัก ออกมา “ ตาย ! ตาย !” ออกจากลิ้นไม่ใช่ริมฝีปากแน่นอนของผู้ถูกทรมานเจ็บปวด ภายในหนึ่งนาทีหรือน้อยกว่าโครงร่างทั้งหมดของเขา หด ห่อตัวม้วนรวมออกห่างจากมือผม กองอยู่บนเตียง กลายเป็นก้อนวัตถุเหลวๆทำนองนั้นของซากศพที่เน่าเปื่อยให้เห็นต่อหน้าเรา
_______________________________________________________________________________
แปลจาก “ The Facts in the Case of M.Valdemar ” by Edgar Allan Poe
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น