เมื่อคนเราสูงวัยเข้าสู่วัยชราโอกาสที่จะใช้ยาก็มีมากขึ้น ในสหรัฐอเมริกามีผู้สูงวัยเฉลี่ยใช้ยาตามใบสั่งจากแพทย์ถึง4-5ฉบับร่วมกับยาชื่อสามัญที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปอีกจำนวนหนึ่งด้วย พวกเขาต้องรับประทานยาเป็นเวลาหลายๆปี เพื่อควบคุม โรค อาการเรื้อรัง อย่างเช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคปวดข้อ หรือไม่ก็ใช้ยาป้องกัน การติดเชื้อ อาการปวดหลังผ่าตัด แก้ท้องผูก อื่นๆฯลฯ
ยาเป็นส่วนสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุ หากปราศจากยาแล้ว
ผู้สูงวัยจำนวนมากอาจเสีนชีวิตหรือการดำรงค์ชีวิตไม่สมบรูณ์ได้ มีการปรับปรุงเรื่องสุขภาพอนามัยของผู้สูงอายุมาหลายทศวรรษแล้ว
มุ่งไปด้านยาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อหลายชนิด ข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ
เวชภัณฑ์หลายชนิดได้ถูกพัฒนาขึ้นแต่ในอีกด้านหนึ่ง
ฤทธิ์ของยาที่ไม่พึงประสงค์ต้องการก็เกิดขึ้นมาด้วยเกิดกับผู้ใช้
เช่นผลข้างเคียงจากการใช้ยา(side effect) บางครั้งรุนแรงบางครั้งก็เพียงทำให้น่ารำคาญอาจกล่าวได้ว่า
ผู้ใช้ยาที่มีอายุเริ่มวัยกลางคนขึ้นไปมีความเสียงสูงต่ออันตรายลข้างเคียงจากการใช้ยามากขึ้น สูงกว่าวัยหนุ่มสาวถึงสองเท่า ยิ่งกว่านั้นอาการข้างเคียงก็มักจะรุนแรงทำให้คุณภาพชีวิตเสื่ยมเสียไปอาจต้องถึงมือแพทย์นอนโรงพยาบาลทีเดียว
ยาบางชนิดรู้กันเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ถ้าผู้ใช้เป็นผู้สูงอายุจะเกิดปัญหา
ฉนั้นควรเปลื่ยนไปใช้ยาตัวอื่นแทนที่ปลอดภัยและให้ผลรักษาเท่ากัน อย่างพวกยาช่วยให้นอนหลับหรือคลายวิตกกังวล
เช่น Chlordiazepoxide, Diazepam ,and
Flurazepam ให้ผลออกฤทธิ์นานแต่ทำให้ผู้สูงอายุกระวนกระวายสับสน
หากเปลื่ยนมาใช้ Lorazepam Oxazepam หรือtemazepam ให้ผลออกฤทธิ์ไม่นานแต่ทำให้ผู้สูงอายุสับสนน้อยกว่าเพื่อหลีกเลื่ยงผลอาการข้างเคียงก่อนใช้จึงควรปรึกษาแพทย์เภสัชกร
เหตุผลที่เกิดความเสี่ยงกับผู้สูงอายุในการใช้ยา เพราะ
๑.ร่างกายที่มีอายุมากแล้วจะเปลื่ยนแปลงแตกต่างกันออกไป
๒.ผู้สูงอายุกินยามากอยู่แล้วเป็นประจำ
๓.ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวเป็นทุนเดิม
ร่างกายที่มีอายุมากแล้วจะเปลื่ยนแปลงน้ำในร่างกายลดลงเปอร์เซนต์ไขมันในร่างกายก็จะสูงขึ้น
ยาหลายตัวละลายได้ในน้ำ และหลายตัวละลายในไขมันยาที่ละลายในไขมันจะสะสมในร่างกานมากขึ้นอาจเกิดผลร้าย
การเปลื่ยนสภาพของไตและตับจะเสื่อมลงในผู้สูงอายุ ตับเป็นอวัยวะที่ทำการเปลื่ยนแปลงขบวนการทางเคมี(Metabolize)ของยาจะกระตุ้นให้ยาออกฤทธิ์หรือไม่ก็หยุดการออกฤทธิ์ของยาหรือเตรียการสลายของยาเพื่อขับออกจากร่างกายซึ่งส่วนใหญ่ยาถูกขับออกทางไตไปกับปัสสาวะ
ตับและไตของผู้สูงวัยจะทำงานได้น้อยลง
การขจัดเปลื่ยนแปลงยาออกจากร่างกายก็ได้น้อยกว่าคนวัยปกติ
ดังนั้นการใช้ยาในผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่จะมัดระวัง
ดังตัวอย่างยารายการต่อไปนี้
· ฤทธิของแอนติโคลิเนอร์จิก Anticholinergic จะแสดงอาการเหล่านี้
สับสน มองเห็นไม่ชัดมัว ท้องผูก ปากแห้ง ศรีษะเบา
ปัสสาวะยากลำบากและสูญเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ
การเกิดผลต่อผู้ใช้ยาที่สูงอายุนี้อาจไม่ได้เกิดกับยาทุกตัวทุกรายการ
แต่มีแนวโน้มเกิดขึ้นต่อผู้สูงอายุเนื่องจากเหตุผลที่ว่า
ร่างกายเสื่อมสภาพกว่าวัยปกติและมักจะต้องรับประทานยาเป็นเวลานานตามที่ได้เรียนเสนอไว้แต่ต้นแล้ว
ฉนั้นในกรณีจำเป็นบ่อยครั้งที่ต้องลดขนาดการใช้ลงและควรปรึกษาแพทย์เภสัชกรด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แปลเรียบเรียงจาก..MERCK MANUAL
of Health & Aging
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น