ไร้สาระ
Nonsence
แม่ของผมไม่เคย.....ไม่เคยย้ายภาพ
ภาพนั้นจากที่ที่มันแขวนไว้เหนือที่พักทางขึ้นบันไดเรือนชั้นสองของเรา ไม่มีใครเคยอธิบายเหตุผลนี้ได้
แม้แต่
ลักษณะรูปภาพเองก็ยังดูไม่ออกและไม่ใช่ว่าพวกเราจะนิ่งดูดายไร้รสนิยม
หรือเกียจคร้าน ในการจัดตกแต่งบ้าน
เราผ่านการย้ายบ้านมาถึงสามครั้งสามหน
จากการที่ต้องดิ้นรนต่อสู้จากต่างจังหวัด
เข้ามาสู่เมืองหลวง
นั่นนับเป็นครั้งแรก
และครั้งที่สองจากการเปลี่ยนสภาพบ้านเช่า
มาเป็นบ้านของตัวเอง มาครั้งนี้
เพื่อขยับขยายที่ทางใหม่ให้สมฐานะและเป็นการเตรียมวางรากฐานไว้ให้ลูกสาวสุดที่รัก
น้องสาวของผมเพียงคนเดียว
สำหรับภาพ ภาพนั้น
ผมได้รับการบอกเล่าของที่มาที่ไปมาบ้างจากลุงของผมเมื่อครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ “ มันเป็นภาพอาถรรพ์
เป็นภาพแห่งการอับโชค
หล่อหลอมด้วยจิตใจแห่ง ความริษยา
เกลียดชัง ดูหมิ่น ดูแคลน
วาดโดยศิลปินผู้บ้าคลั่งและวิกลจริต
โทนสีก็เร่าร้อนตัดกันอย่างสะเปะสะปะ
หลายคนดูมันไม่ออก แต่สำหรับลุง
และพ่อของแก บ้า!
บ้าที่สุด!!
”“แล้วทำไม
ต้องอยู่เหนือบันไดทางขึ้นละครับลุง
? ”“ หากเจ้ามองมันให้ดี
ไม่ใช่ซิ ต้องแหงนมองซิ
มันกว้างสองเมตร ยาวสี่เมตร
แขวนไว้บริเวณเหนือ ที่พักขั้นบันได
ขอบบนจะยันแนวเพดาน
ส่วนขอบล่างยันขอบหน้าต่างบนพอดี ตำแหน่งมันพอดีนะ เจ้าก็เคยเห็นแล้วนะ ”“ ครับ
สีที่ใช้อาจจะดูแสดจ้า
แปลกๆ แต่ผมว่าอบอุ่นดีครับ
ไม่เห็นรู้สึกอย่างลุงว่าเลย
แล้วทำไมไม่เปลี่ยนทีแขวนละครับ
มันซ้ำอยู่ตำแหน่งเดิมถึงสามครั้ง
?
”
“ ว่ะ
ก็ไปถามแม่เจ้าเองซิ ”“ มันควรอยู่ในที่
ที่แม่เห็นว่าควร
”เป็นคำตอบเดียวทุกครั้งที่พวกเราถามแม่
ไม่มีคำอธิบาย สำหรับผม
ผมควรจะหยุดถามไม่เห็นว่าจะต้องได้รับคำอธิบายเพิ่มเติมแต่อย่างไร
น้องสาวผมเสียอีกที่กระเหี้ยนกระหือรือควานหาลึกลงไปอีก“ มันมีบางสิ่งที่แม่ไม่อยากบอกด้วยคำพูด
” น้องสาว ย้ำกับผม
“ พี่เห็นตำแหน่งของมันไหมละค่ะ
จะต้องสอดคล้องกับทิศศาสตร์
ตามหลักสุริยะโคจร แสงแดดที่แผดกล้า
ไม่เคย ได้สัมผัสแตะสีของภาพเลย
ไม่ว่า เช้า สาย บ่าย เย็น ”“ ที่จริงแนวบ้านของเรา
ก็เรียงคู่ขนานกับแม่น้ำ
ที่ทอดไปตามทิศเหนือ-ใต้
ตัวบ้านด้านข้างต้องถูกแสงแดด
ที่เยื้องมาเช้า-เย็นแต่ถูกกันคนละด้าน
บริเวณที่พักขั้นบันได
ในตอนเช้าไม่ต้องพูดถึงแม้แสงแดดยามบ่ายจะไม่กล้ำกรายมา
แดดอ่อนๆ เพียงแต่จะละเลียพื้น
แตะขั้นบันไดไล่ขึ้นทีละขั้น
แต่พอมาถึงภาพกับแฉลบเลี่ยงไปทางซ้าย
” ผมเสริมเข้าไปบ้าง“ นั่น
นะ ซิ ”“ ถ้าไม่ใช่
หลักสุริยะโคจรศาสตร์
พี่ก็ไม่สามารถให้เหตุผลอื่นได้
”“ แต่เราก็เปลี่ยนบ้านมาแล้วถึงสามครั้ง
สองครั้งแรก ตัวบ้านก็ไม่ได้ตั้งตาม
แนวเหนือ-ใต้
เหมือนคราวนี้ ”“ ฮื่ม
ก็จริงของเธอว่า เราไปถามคุณอา
กันดีกว่าไหม ?”“ ในฐานะที่อาพอมีหัวทางศิลปะอยู่บ้าง
ก็ต้องบอกว่า
โดยรวมแล้วรูปภาพจัดอยู่ในประเภทนามธรรม
วาดโดยศิลปินผู้มีชื่อ
แม่เธออยากจะอวดกับผู้คน
” คุณอา กางไม้กางมือประกอบการพูด
เน้นน้ำเสียงหนักเบาอย่างอาจารย์ศิลปผู้มีชื่อเสียง“ หากเรามองดูจาก
ห้องนั่งเล่น ก็จะเห็นได้ชัด
เวลาขึ้นชั้นสองยิ่งดูสะดุดตา
แม่เธอต้องการให้คนที่ดูภาพถูกสะกดไว้
ให้เป็นการเตือนถึงความชั่วร้าย,ความผิดผาด,ความอับโชค
ที่เราต้องเผชิญนั่นแหละ”“ มันคงได้รางวัลพิเศษ
จากการประกวดที่ไหนสักแห่ง”“ ไม่เลย
”มันพอมีเหตุผลพอฟังได้ความอยู่
คุณอาผมพูดถูก แต่ที่แน่มันได้ถูกเปิดเผย
ในระหว่าง อาหารเย็นวันหนึ่งของครอบครัวเรา
“ ว่าไงละพ่อ
เขาติดต่อมาหรือยัง ผู้รับเหมาะนะ ”“ ก็โทรมาบ้าง
ยืนยันว่าไม่ใช่ความผิดของเขา ”“ ทำอย่างนี้ได้อย่างไร?
กี่ครั้งแล้วที่เกิดกับเรา
ทำไมหนอ โชคชะตาหรือความบังเอิญ
สามครั้งแล้วนะ ”“ เขาจะชดใช้ให้
หักเป็นค่าลดหย่อน ”“ มันแก้ไขอะไรไม่ได้หรอกหรือ
ไอ้รอยร้าวพันธ์นั้น ”“ มันก็พอทำให้ดูดีขึ้นโดยการอุดตามแนวร้าว
แต่อย่างว่า ต้องมีตำหนิเล็กน้อย
จะให้เขารื้อทั้งหมดก็เสียเวลาเสียของ ”“ อย่างที่แม่ทำก็ดูดีนะลูก
ทำไมหนอต้องเกิดถึงสามครั้งสามครา
แล้วก็ที่ตำแหน่งเดียวกันเสียนี่ ”
---------------------------------------------------------------------------------------------
1 ความคิดเห็น:
ธรรมดา ๆ ว่ะ
แสดงความคิดเห็น