สายลับผู้ขัดขวางและทำลายอนามัยโลก
หลังเที่ยงคืน วันที่ ๒พฤษภาคม ๒๕๕๔
โดยใช้เวลาไม่นานนักหน่วยซิล ทหารสหรัฐอเมริกาได้เข้าจู่โจมชั้นสาม
ของอาคารแห่งหนึ่งในเมืองแอบโบทตาแบด(Abbottabad) ปากีสถาน ไล่ล่าไปตามอาคารหลักชั้นบนและได้สังหาร ออสมาบิลลาเด่น
ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการสังหารโหดผู้ที่มิรู้อีโหน่อีเหน่ จำนวนหลายพันคนทั่วโลกตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่การปฎิบัติการณ์ครั้งนี้ อาจนำความตายไปสู่ผู้คนอีกมากกว่าแสนคน
ในกรณีค้นหาชี้ตัวบิลลาเดนหรือครอบครัวของเขา ซ๊ไอ เอ, องค์การข่าวกรองสหรัฐอเมริกาได้ใช้โครงการฉีดวัคซืนป้องกันตับอับเสบชนิดบีมาบังหน้า
ทั้งนี้เพื่อจะเก็บตัวอย่าง ดี เอ็น เอ DNA บรรดาเพื่อนบ้านของบิลลาเดน ที่เขาได้ซ่อนตัวแอบแฝงอยู่
ความพยายามครั้งนั้นก่อทำลายความน่าเชื่อถื่อศรัทธาต่อการพัฒนาสาธารณสุขอนามัยระดับโลกเป็นหลายสิบปี
มันเป็นเรื่องยากพอควรที่จะรณรงค์ฉีดวัคซืนป้องกันให้ทั่วถึงกันออกไป อย่างวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอให้กับเด็กที่ยากจนค้นแค้น
ภายใต้การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ตามท้องที่ภูมิภาคท้องถิ่นต่างๆกันทีมีข่าวลือโจษจันนาน
สิบปีมาแล้วว่า การแพทย์ตะวันตกจะทำให้เด็กผู้หญิงเป็นหมัน
มันเป็นความคิดที่ผิดผลาดของกลุ่มผู้นำศาสนานิกายไนจีเรียนซึ่งตอนแรกก็ให้การสนับสนุนต่อการฉีดวัคซีน
มาภายหลังมีรายงานที่น่าเชื่อถือมากมายว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีนนี้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของ
ซี ไอ เอ ซึ่งสหรัฐก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้
ความตายที่ต่อเนื่องได้เริ่มขึ้นแล้ว
ชาวหมู่บ้านตามแถบตะเข็บชายแดนอาฟกานิสถาน-ปากีสถานได้ขับไล่เจ้าหน้าที่ตัวจริงที่มาให้บริการฉีดวัคซีนโดยกล่าวหาว่าพวกเขาเป็นจารชนให้สหรัฐอเมริกา
หัวหน้ากลุ่มตาลีบันได้สกัดกั้นไม่ให้มีการฉีดวัคซีนโปลิโอในพื้นที่บางส่วนของปากีสถานโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ให้การสนับสนุนบิลลาเดนหลังจากนั้นในเดือน
ธันวาคม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขผู้ฉีดให้วัคซีนในปากีสถาน ๙ นายถูกฆ่า
จากพันธองค์การสหประชาชาติได้สั่งถอนเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ สองเดือนต่อมา มีเจ้าหน้าที่ ๑๐ นาย
ถูกยิงในประเทศไนจีเรีย มันเป็นสัญญานแสดงอันตราย
ถึงการต่อต้านอย่างรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนั้น
นี่ดีทีการต่อต้านเช่นนั้นไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่โรคแพร่ระบาด
การรณรงค์ทั่วโลกเพื่อให้วัคซีนโปลีโอได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว
จำนวนผู้ป่วยได้ลดลงจาก 300,000 รายในปี คศ.1988 มาอยู่ที่ 650 รายในปี ค.ศ.2011 ประเทศที่โรคนี้ยังมีอยู่เหลือเพียง 3 ประเทศ ได้แก่ ไนจีเรีย ปากีสถาน และอาฟกานิสถาน
จากเดิมที่เคยระบาดใน 125
ประเทศ เมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา
การขัดขวางการให้ภูมิคุ้มกันนี้อาจสามารถกระตุ้นการคงอยู่ของโรคโปลีโอแพร่ไปทั่วโลกได้อีกครั้ง
จาก The Spies who sabotaged Global
health. Scientific American,May 2013.
1 ความคิดเห็น:
ก็ฮั้วใหญ่ ฮั้วเก่ง ฮั้วเจริญแล้ว ฮั้วจะเอาคืนโดย ใครจะทำไม
แสดงความคิดเห็น