เพื่อความเข้าใจและเหมาะสมในหัวข้อเรื่องดังกล่าว ขอนำท่านสู่สถานการ์ณจำลองการเจรจาซื้อขายสิทธิบัตรยาระหว่างสองบริษัทยา บริษัทยาตะวันตกเจ้าของและผู้ทรวสิทธิบัตร “ดีดี”และยาชนิดอื่นๆอีกมากมาย กับบริษัทยาตะวันออกผู้ประสงค์จะซื้อสิทธิบัตรยา”ดีดี” ยาต้านทานโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง(โรคเอดส์) ทั้งสองบริษัทได้ผ่านการตกลงเจรจาไปแล้วการซื้อ..โอนระดับหนึ่ง หากจะต้องมีละเอียดปลีกย่อยที่ต้องเจรจาวจสอบเช่น เลขที่สิทธิบัตร เนื้อหาสาระบางประการแบบฟอร์มอนุญาตให้ใช้สิทิเป็นต้น ทั้งสองบริษัทจึงส่งผู้แทนของตนของตนเดินทางมาที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อตรวจสอบและดำเนินการร่วมกัน ขณะที่ผู้แทนทั้งสองกำลังเดินผ่านแผนกรับจดสิทธิบัตร ก็ด้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายระหว่างคู่สนทนาอื่นสองท่าน ดร.ง่ายดาย ใบไม้เขียว ผู้ยื่นขอจดสิทธิบัตร และเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา
ดร.ง่ายดาย ใบไม้เขียว : “ ทำไมผมจะจดไม่ได้ ผมคิดของผมเอง เจ้าแรก รายแรก ยังไม่มีใครสกัดเอาสารนี้ออกจากพืชหัวกาวได้เลย”
เจ้าหน้าที่ : “ก็มันเข้าข่ายการประดิษฐที่ขอรับสิทธิบัตรไม่ได้ครับ ในมาตรา๙ (Article 27) ข้อที่ว่า จุลชีพและส่วนประกอบใดส่วนหนึ่งของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ สัตว์ พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืช ไม่สามารถนำมาจดสิทธิบัตร เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ”
ดร.ง่ายดาย ใบไม้เขียว : ” แต่คุณไม่ได้อ่านเอกสารดูให้ดีหรือ ผมยื่นจดขบวนการกรรมวิธีในการสกัด สารที่ชื่อ ”เข้าด้ายเข้าเข็ม” จากหัวกาวด้วยนะไม่ได้ขอจดเฉพาะตัวสารสกัดเพียงอย่างเดียว”
เจ้าหน้าที่ก้มลงอ่านเอกสารได้สักครู่ใหญ่ก็เงยหน้าขึ้นยิ้มแหย่ๆแผล็บเดียวก็ทำหน้าเข้มขึงต่อ
เจ้าหน้าที่ : ครับผมศึกษาอ่านรายละเอียดแล้วครับ ยอมรับผลพิสูจน์ยืนยันทางคลีนิดที่ว่า
สาร”เข้าด้ายเข้าเข็ม”นี้เพิ่มสมรรถนะจริง แต่โอ้โฮ....มันจะทำให้ผู้รับประทานเข้าไปสามารถประกอบกิจการบ้านได้ตั้งสิบครั้งเชียวหรือ ประเด็นนี้เข้าข่ายมาตรา๙ (Article 27) ที่ว่า การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดี อนามัยหรือสวัสดิภาพของประชาชน เหล่านี้ไม่รับจดสิทธิบัตรครับ ”
การสนทนาถกเถียงจะนานต่อไปเท่าใดไม่อาจทราบได้ แต่ผู้แทนของบริษัทยาทั้งสองละ หันเหความสนใจออกจากคู่สนทนาคู่นั้นแล้วออกเดินตรงรี่ไปยังบริเวณรับรองหน้าห้องผู้อำนวยการสำนักงานสิทธิบัตร ขณะที่รอเข้าพบ การสนทนาระหว่างคนทั้งสองก็เริ่มขึ้น
ผู้แทนบริษัทยาตะวันออก: “ คุณก็ทราบดีนะ ว่าโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เรียกกันว่าโรคเอดส์กำลังระบาดติดต่อกันมากในประเทศของผมและมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ยารักษาโรคเอดส์ที่เรามีอยู่ไม่สามารถใช้ได้ผลเท่ากับ ยา ”ดีดี”ของบริษัทคุณ เรามีความประสงค์จะผลิตยาตัวนี้เอง โดยมุ่งมั่น ค่าตอบแทนสิทธิที่คุณเสนอมาก็สมเหตุผลดีอยู่หรอก แต่อันที่จริงอายุสิทธิบัตรยา”ดีดี”ก็ล่วงเลยมา16ปีแล้ว เหลืออีก 4ปีก็หมดอายุ ผมว่าคุณควรจะลดค่าตอบแทนสิทธิลงบ้าง ”
ผู้แทนบริษัทยาตะวันตกนั่งนิ่งเงียบงันโต้ตอบโดยทันที เขากำลังรุ่นคิดอยู่ในใจว่า....โธ่เอ๋ย..เจ้าตัวเล็กผิวเหลือง ที่จริงแล้วหากบริษัทนี้วางแผนผลิตให้เหมาะสมจะทราบข้อกำหนดยกเว้นเกี่ยวกับสิทธิบัตรยาอย่างถ่องแท้แล้วไม่จำเป็นต้องมาเจรจาขอซื้อแต่อย่างไร ตามข้อกำหนดของทริปส์(TRIPS)ในเริ่องสิทธิบัตรมีข้อยกเว้นว่า บรรดายาต่างๆที่ใกล้หมดอายุสิทธิบัตรประเทศรัฐบาลใดประสงค์จะผลิตยานั้นๆขึ้นเองบ้าง สามารถกระทำได้เพื่อวัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัย เพื่อพื้นฐานความรู้ทางศาสตร์และเทคโนโลยีและเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลยื่นประกอบการขอขึ้นทะเบียนยาจากสำนักงานอาหารและยากระทรวงสาธารณสุขประเทศนั้นๆได้ตรวจสอบเสียก่อน ซึ่งจะใช้เวลาใกล้เคียงพอดีกับอายุสิทธิบัตรยาหมดลง บริษัทก็สามารถนำผลิตภัณฑ์ยานั้นจำหน่ายออกสู่ตลาดได้ทันที บริษัทยาตะวันออกน่าจะใช้วิธีการเช่นนี้ดำเนินการผลิตยาดีดี โดยไม่ต้องเสียเงินค่าตอบแทน ข้อยกเว้นนี้ ทริปส์(TRIPS) ใช้ศัพท์ว่า Regulatory exceptionหรือ Bolar และที่ผ่านมาได้มีการประชุมตกลงระหว่างประเทศสมาชิกยืนยันข้อยกเว้นดังกล่าวและมีการตีพิมพ์เป็นเอกสารออกมาที่เรียกว่า “ Canada-Patent Protection for Pharmaceutical Products”
เมื่อเขาได้คิดดังนั้นสักครู่ใหญ่เขาจึงตอบกลับไป
ผู้แทนบริษัทยาตะวันตก:” ผมขอนำกลับไปพิจารณาร่วมกับผู้บริหารก่อน คาดว่าอาจจะลดค่าตอบแทนลงได้ไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์ ”
ผู้แทนบริษัทยาตะวันออกรับฟังอย่างนิ่งสงบในใจก็ครุ่นคิดเช่นกันว่า..โธ่เอ๋ย..เจ้าผิวขาวนัยน์ตาน้ำข้าว รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ เพียงแต่เราไม่ต้องการให้เสียเวลาและเพื่อชดเชยต่อสิ่งที่เราไม่น่ากระทำลงไป เป็นเวลา 2-3ปีมาแล้วที่บริษัทยาตะวันตกของนายได้มาจดและใช้สิทธิบัตรและทำการผลิตยา”สามดี” ในประเทศของเราโดยมีโรงงานที่ตั้งอยู่ในไทยและทำตลาดจำหน่ายไปประเทศเพื่อนบ้านด้วยแต่ได้จำหน่ายจำหน่ายยา”สามดี”ในประเทศไทยถูกกว่าที่จำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน บริษัทในเครือของเราจึงจึงซื้อยา ”สามดี” ไว้มากและดำเนินธุรกิจส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้นโดยจำหน่ายตัดราคาให้ถูกกว่าที่บริษัทของนายจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านนั้น อันที่จริงไม่ถือว่าว่าเป็นการละเมิดสิทธิบัตรแต่อย่างใด ตามบทบัญญัติศัพท์ของทริปส์(TRIPS) เรียกว่า Parallel Imports Gray Imports(Article 6)
คิดทบทวนเสร็จจึงกล่าวขึ้น
ผู้แทนบริษัทยาตะวันออก: “ เราจะรอคำตอบด้วยความหวัง”
พูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วสาวเท้าสั้นๆตามคำเชื้อเชิญของเจ้าหน้าที่หน้าห้อผู้อำนวยการสำนักงานสิทธิบัตร
ผู้แทนบริษัทยาตะวันตก:” หวังว่าคุณคงไม่ใช้บทบัญญัติของทริปส์ที่เรียกว่าการบังคับใช้สิทธิ์ Compulsory licensing (Article31) มานำเสนอกับรัฐบาลของคุณให้คุณสามารถผลิตจำหน่ายยา ”ดีดี” ได้โดยไม่ต้องได้รับการยินยอมจากเรา โดยคุณคงไม่ยกอ้างการระบาดของโรคเอดส์เป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพสาธารณสุขของประชาชน ฮืมเรากลัวว่ามันจะเหมือนกับ2-3ปีที่แล้วที่เกลัวว่าประเทศเพื่อนบ้านของคุณจะใช้ทบัญญัตินี้ประกาศใช้กับยา ”สามดี” ดังนั้นเราจึงยอมปล่อยให้มีสินค้าของเราเองนำเข้าไปจำหน่ายตัดราคาบ้างเพื่อลดความกดดันและรักษาสถานภาพสิทธิบัตรเอาไว้ “
ผู้แทนบริษัทาตะวันตกกล่าวพร้อมสาวเท้ายาวๆเข้าไปยืนเคียงข้างพร้อมเดินคู่ไปกับเพื่อนพันธมิตรทางการค้า
อ้างอิง
๑.TRIPS and pharmaceutical patents.WTO OMC Fact sheet ,September 2006
๒.พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.๒๕๕๒
-ถ้าระบุมาตรา หมายถึงมาตราในกฏหมายสิทธิบัตรของประเทศไทย
-ถ้าระบุ Article หมายถึงบทบัญญัติหัวข้อในข้อตกลง TRIPS(Trade-Related Aspects of Intellectual Property Rights)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น